วานนี้ (15 พฤศจิกายน) เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์นโยบายดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาทของรัฐบาลว่าไม่ตรงกับที่หาเสียงเอาไว้ว่า หากเรายึดมั่นกับสิ่งที่พูดไปโดยไม่ฟังความคิดเห็นก็จะโดนทั้งขึ้นทั้งล่อง ซึ่งเราพยายามทำให้ดีที่สุด แต่ต้องปรับปรุงแต่งเติมบ้างตามข้อคิดเห็นหรือข้อเสนอแนะของทุกภาคส่วน และไม่สามารถทำให้ทุกคนพอใจได้ พยายามรับฟังอยู่ วันนี้ก็รับฟัง อะไรที่ไม่ก้าวร้าวก็พร้อมจะรับฟัง
พยายามทำให้ได้อย่างที่พูด แต่ต้องมีปรับปรุงกันบ้าง
ส่วนที่มีการวิจารณ์ว่าการดำเนินการโครงการไม่ตรงกับที่หาเสียงเอาไว้ โดยอ้างว่าเป็นเพียงเทคนิคในการหาเสียง อย่างเช่น บอกว่าจะไม่กู้เงิน แต่รัฐบาลก็กู้ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ทุกสิ่งที่พูดไปนั้นพยายามทำให้ได้อย่างที่พูด แต่ต้องมีการปรับปรุงแต่งเติมกันบ้าง แล้วแต่จะคิด ไม่อยากไปตอบโต้
“สำหรับคำพูดที่ว่าจะทำแล้วไม่ทำ อย่าเอาความคิดของท่านมาให้ผมเลย ต่างคนต่างคิด ต่างคนต่างทำ มีหน้าที่ก็ทำไป เป็นหน้าที่ของท่านที่ท่านจะพูด ส่วนผมก็เป็นหน้าที่ของผมที่ผมจะทำ” เศรษฐากล่าว
กรอบระยะเวลาโครงการดิจิทัลวอลเล็ตเหมือนเดิมหรือไม่
เศรษฐาระบุว่า สำหรับกรอบระยะเวลาการดำเนินโครงการยังเหมือนเดิมหรือไม่ หรือต้องรอความชัดเจนจากคณะกรรมการกฤษฎีกาก่อน เข้าใจว่าตอนที่เราดูเรื่องไทม์ไลน์ไปแล้วเราดูเรื่องกฤษฎีกาแล้ว ว่าเราก็มีเวลาให้กฤษฎีกา ซึ่งไม่ต้องการไปกดดันว่าจะมีการประชุมเมื่อไร อย่างไร
แต่ขณะนี้ยืนยันว่ายังคงอยู่ในไทม์ไลน์และตั้งใจจะดำเนินการโครงการนี้จริงๆ ไม่ใช่หาทางออก และการที่หลายๆ คนบอกว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่อยากให้ทุกฝ่ายตรวจสอบได้ รัฐบาลจึงดำเนินการให้มี พ.ร.บ.กู้เงิน ให้สภาสามารถตรวจสอบได้ ต้องให้เกียรติทุกภาคส่วน ไม่มีอะไรที่ทำแล้วทุกคนพอใจ แต่ต้องพยายามทำเพื่อประชาชน วันนี้เรื่องของการหาเสียงจบไปแล้ว ถึงเวลายกระดับความเป็นอยู่ของประชาชน และจะพยายามทำให้ดีที่สุด
