EXIM BANK ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วน Green Portfolio จาก 37% ในปัจจุบันให้เป็น 50% ภายในปี 2571 เตรียมออก Blue Bond ราว 3-5 พันล้านบาท ในไตรมาส 1-2 ของปีหน้า พร้อมเปิดให้ประชาชนทั่วไปได้ร่วมลงทุน
ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) กล่าวว่า EXIM BANK ในฐานะสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงการคลัง มุ่งสู่บทบาท Green Development Bank ขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศไทยไปสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี 2593 ควบคู่ไปกับการยกระดับประเทศไทยสู่ประตูการค้า การลงทุน และยุทธศาสตร์ทางโลจิสติกส์ที่สำคัญของภูมิภาค รวมถึงการพัฒนาคนตัวเล็กหรือ SMEs ไทยให้เข้มแข็ง มีศักยภาพสูง และแข่งขันได้ในเวทีโลก
โดยภายใต้บทบาทการเป็น Green Development Bank นี้ส่งผลให้ ณ สิ้นเดือนกันยายน 2566 EXIM BANK มียอดคงค้างสินเชื่อที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม 60,298 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 37% ของสินเชื่อคงค้างทั้งหมด เพิ่มขึ้นถึง 37.36% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผู้ประกอบการ SMEs 14,122 ล้านบาท คิดเป็น 23.42% จากสินเชื่อของ EXIM BANK ที่ให้การสนับสนุนธุรกิจสีเขียว โดยตั้งเป้าหมายจะขยายเป็น 50% ในอีก 5 ปีข้างหน้า
EXIM BANK เปิดเผยด้วยว่า วางแผนออกบลูบอนด์ (Blue Bond) เพื่อระดมทุนนำมาใช้กับโครงการที่เป็นประโยชน์กับสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรทางทะเลโดยเฉพาะ เช่น พาณิชยนาวีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ภายในไตรมาสที่ 1-2 ของปีหน้า โดยคาดว่าจะออกมูลค่า 3-5 พันล้านบาท นอกจากนี้ บลูบอนด์ครั้งนี้ส่วนหนึ่งจะเปิดให้ประชาชนรายย่อยลงทุนด้วย
“เริ่มแรกตั้งใจจะขายกรีนบอนด์ที่ออกไปก่อนหน้านี้ให้กับรายย่อยอยู่แล้ว แต่แค่เปิดมานักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายใหญ่ก็จองไปเกือบหมดแล้ว ดังนั้น บลูบอนด์ที่วางแผนจะเปิดตัวในไตรมาสที่ 1-2 ของปีหน้าก็จะเก็บไว้ให้รายย่อยด้วย“ ดร.รักษ์กล่าว
EXIM BANK กล่าวอีกว่า ได้นำพาผู้ประกอบการไทยไปปักหมุดธุรกิจพลังงานหมุนเวียนทั้งในและต่างประเทศจำนวนกว่า 400 โครงการ คิดเป็นกำลังการผลิตกว่า 8,800 เมกะวัตต์ ลดการปล่อยคาร์บอนได้มากกว่า 100 ล้านตัน โดยเป็นการสนับสนุนทางการเงินกว่า 68,600 ล้านบาท และสร้างมูลค่าการลงทุนกว่า 578,300 ล้านบาท