วันนี้ (27 ตุลาคม) ที่พรรคเพื่อไทย ภายหลังที่การประชุมใหญ่วิสามัญพรรคเพื่อไทย มีมติเลือกคณะกรรมการบริหารพรรค รวม 23 คน ประกอบด้วย แพทองธาร ชินวัตร เป็นหัวหน้าพรรคคนที่ 8 ด้วยคะแนน 289 คะแนน จากผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งหมด 290 คะแนน และมีผู้ไม่ประสงค์ลงคะแนนอีก 1 คน
นอกจากนี้ยังมีรองหัวหน้าพรรคอีก 6 คนคือ ชูศักดิ์ ศิรินิล, จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์, โอชิษฐ์ เกียรติก้องชูชัย, จิราพร สินธุไพร, พงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ และ เผ่าภูมิ โรจนสกุล มี สรวงศ์ เทียนทอง เป็นเลขาธิการพรรค และรองเลขาธิการพรรค 3 คน ประกอบด้วย ศรีญาดา ปาลิมาพันธ์, ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ และ ศรัณย์ ทิมสุวรรณ ส่วน ทวีศักดิ์ อนรรฆพันธ์ เป็นเหรัญญิกพรรค, ณณัฏฐ์ หงษ์ชูเวช เป็นนายทะเบียนสมาชิกพรรค และ ดนุพร ปุณณกันต์ เป็นโฆษกพรรค
สำหรับกรรมการบริหารพรรคอีก 9 คน ประกอบด้วย ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์, วรวงศ์ วรปัญญา, พชร จันทรรวงทอง, นิกร โสมกลาง, ธิติวัฐ อดิศรพันธ์กุล, จเด็ศ จันทรา, พลนชชา จักรเพ็ชร, ชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ และ สรัสนันท์ อรรณนพพร
จากนั้นแพทองธารขึ้นแสดงวิสัยทัศน์หลังขึ้นรับตำแหน่งหัวหน้าพรรค ซึ่งมีล่ามภาษามือคอยแปลภาษาอยู่ข้างๆ ระบุว่า ขอบคุณสมาชิกพรรคเพื่อไทยทุกคน ที่มอบความไว้วางใจให้มาดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ตนรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง เพราะนี่ไม่ใช่เป็นเพียงกระบวนการของพรรค แต่เป็นการเชื่อมความเชื่อมั่น ความมั่นคง ความศรัทธา เชื่อมการต่อสู้ของทุกคนเข้าด้วยกันอีกครั้ง
“พรรคเพื่อไทยผ่านอะไรมาเยอะมาก เราเป็นพรรคการเมืองที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด และเรายังเป็นพรรคการเมืองที่ถูกกระทำมากที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองไทย ดิฉันเติบโตมาในแวดวงการเมือง ได้สังเกต ได้ใกล้ชิด ทำให้ได้เรียนรู้อะไรมากมาย ต้องขอขอบท่านทักษิณ ชินวัตร คุณพ่อ ที่ทำให้ดิฉันได้เห็นถึงความตั้งใจ เห็นถึงอุดมการณ์ของท่าน และทำให้ได้เรียนรู้ ได้ใกล้ชิด ที่ได้เป็นแรงบันดาลใจที่สำคัญของดิฉันในการดำรงชีวิต” แพทองธารกล่าว
แพทองธารยังกล่าวอีกว่า ตนรู้ดีว่าภารกิจนี้เป็นภารกิจที่ยิ่งใหญ่และสำคัญมาก โดยเฉพาะบริบทของการเมืองที่เปลี่ยนแปลงไปรวดเร็วในทุกวัน มั่นใจว่าเรามีบุคลากรที่มีความสามารถ สั่งสมประสบการณ์มาตั้งแต่เป็นไทยรักไทย จนถึงเพื่อไทยในปัจจุบัน เราจะทำเพื่อไทยให้พัฒนาขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง
หัวหน้าพรรคเพื่อไทยยังกล่าวด้วยว่า การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ทำให้เราต้องเปลี่ยนวิธีคิดใหม่ ทีมคณะบริหารพรรคเพื่อไทยทีมใหม่จะต้องถอดบทเรียน ทบทวนการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว เพื่อทำให้ดีขึ้น เพื่อนำพรรคเพื่อไทยให้กลับไปยืนอยู่ในใจของประชาชน ในฐานะพรรคการเมืองอันดับ 1 อีกครั้งอย่างยั่งยืน
แพทองธารกล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 2 เดือนที่ผ่านมา ภายใต้รัฐบาลและการนำของเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นเครื่องพิสูจน์แล้วว่าการจัดตั้งรัฐบาลในวันนั้นเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องที่สุด มีสิ่งต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย ทั้งการลดค่าไฟ ค่าน้ำมัน การปรับลดค่าโดยสารรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย การเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ การให้ภาคเอกชนและคนรู้จริงเข้าไปพัฒนาเรื่องซอฟต์พาวเวอร์ของประเทศไทยอย่างจริงจังเป็นครั้งแรก
การนำร่องใช้บัตรประชาชนเพื่อรักษาพยาบาลในโครงการ 30 บาทรักษาได้ทุกที่ การรับมือวิกฤตทันท่วงทีช่วยคนไทยกลับบ้านในสถานการณ์สงครามในตะวันออกกลาง การเจริญสัมพันธไมตรีทางการทูตกับนานาประเทศ นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นในระยะเวลา 2 เดือน สามารถสร้างโอกาสให้ประชาชนและประเทศอย่างมากมาย และตนมั่นใจว่า 4 ปีหลังจากนี้ก็จะมีบทบาทเพิ่มขึ้นให้ประเทศของเราอย่างแน่นอน
แพทองธารกล่าวอีกว่า พรรคเพื่อไทยจะยังคงสานต่อภารกิจสำคัญคือ การยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ทั้งด้านความเป็นอยู่ สิทธิเสรีภาพอย่างที่ทำต่อเนื่องมา 25 ปี เรามีวันนี้ได้เพราะผู้ใหญ่ในพรรครดน้ำพรวนดินให้ต้นไม้ต้นนี้แข็งแรงและมีรากฐานที่มั่นคง ตนมองเห็นได้ชัด ได้ไกลขึ้นเพราะทุกท่านได้ร่วมสร้างกันไว้
จากนี้ไปตนอยากให้พรรคเพื่อไทยเป็นมากกว่าพรรคที่ให้โอกาส แต่สามารถขจัดความเสี่ยงในชีวิตของประชาชนได้ด้วย เพื่อปลดล็อกศักยภาพของคนได้อย่างเต็มที่ มีสิทธิ์ มีเสียงในการพัฒนาประเทศไปด้วยกัน เราจะไม่ทิ้งดีเอ็นเอเดิมของพรรคเพื่อไทย นั่นคือการทำนโยบายที่สัญญาไว้กับประชาชนให้เป็นจริงได้ เราจะทำความฝันให้เป็นความจริง เราจะทำเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้ เราจะลบทุกคำสบประมาทด้วยผลงานที่ปฏิเสธไม่ได้ ดีเอ็นเอนี้จะยังคงอยู่กับพรรคเพื่อไทย และพัฒนาตามยุคสมัย
โดยมี 4 เรื่องหลักที่สำคัญที่ทีมบริหารทีมใหม่จะต้องทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในพรรคอย่างชัดเจน คือ
- จะทำ Digital Transformation อย่างเต็มรูปแบบ นำข้อมูลทุกอย่างให้อยู่ในระบบดิจิทัลเพื่อให้เกิดการต่อยอดและพัฒนาได้ง่ายขึ้น
- เราจะสร้างองค์กรแนวราบและเพิ่มการมีส่วนร่วมของทุกคน ทำให้พรรคเกิดประสบการณ์ มีกระบวนการตัดสินใจที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพเพื่อประชาชนมากยิ่งขึ้น
- เราจะทำให้องค์กรพรรคเพื่อไทยเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ Learning Organization ที่จะมีศูนย์ข้อมูล ศูนย์วิจัยเพื่อนำมาพัฒนานโยบายของเรา ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี เพื่อปรับใช้ให้ทันยุคสมัย และรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของโลกได้อย่างเท่าทัน จะมีการอบรมศักยภาพทั้งยุวสมาชิกและสมาชิกทั่วไป แบ่งพื้นที่ให้คนทั้งรุ่นใหญ่และรุ่นใหม่แลกเปลี่ยนความคิดเห็น แชร์ไอเดียเพื่อพัฒนาแก้ไขปัญหาประชาชนให้ครบทุกพื้นที่
- เราจะสร้างเครือข่ายครอบครัวเพื่อไทยให้แข็งแรง และมีในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อรับฟังเสียงประชาชนที่สะท้อนมา ทั้งของตัวเองและครอบครัวได้อย่างชัดเจน ให้ถึงพรรคเพื่อไทยได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
ในช่วงท้ายแพทองธารยังกล่าวถึงสิ่งที่บอกกับตัวเองและสมาชิกทุกคนในพรรคว่า “ตายังคงดูดาว เท้ายังคงติดดิน ยืนหยัดอยู่ข้างประชาชนอย่างเข้มแข็ง มั่นคง เพราะพรรคเพื่อไทยหัวใจคือประชาชน”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนการขึ้นพูดของแพทองธาร พรรคเพื่อไทยได้เปิดวิดีโอย้อนเหตุการณ์สำคัญที่แกนนำพรรคเพื่อไทยได้รับเลือกตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีตั้งแต่สมัยทักษิณ ชินวัตร, ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร, สมชาย วงศ์สวัสดิ์ และภาพของอดีตหัวหน้าพรรคทั้ง 7 คนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นที่สังเกตว่าในการแสดงวิสัยทัศน์ของแพทองธาร มีบุคคลสำคัญและสมาชิกพรรคคนสำคัญเข้าร่วมรับฟังด้วย เช่น ปิฎก สุขสวัสดิ์ สามี, พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ พี่สาว และ คชาภา ตันเจริญ หรือ มดดำ พิธีกรชื่อดัง
