สถานีโทรทัศน์ CCTV ของจีน รายงานในวันนี้ (27 ตุลาคม) ว่า หลี่เค่อเฉียง อดีตนายกรัฐมนตรีของจีน ถึงแก่อสัญกรรมด้วยวัย 68 ปี ช่วงหลังเที่ยงคืนที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น ภายหลังเกิดอาการหัวใจวายเฉียบพลันระหว่างการพักผ่อนที่นครเซี่ยงไฮ้ ซึ่งแพทย์ได้พยายามอย่างเต็มที่เพื่อทำให้เขาฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง แต่ก็ไม่สำเร็จ
“สหายหลี่เค่อเฉียงซึ่งพักผ่อนอยู่ที่เซี่ยงไฮ้ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาประสบภาวะหัวใจวายเฉียบพลันเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม โดยหลังจากที่ความพยายามทำให้เขาฟื้นขึ้นมาอีกครั้งล้มเหลว เขาได้ถึงแก่อสัญกรรมในเซี่ยงไฮ้เมื่อเวลาเที่ยงคืนสิบนาที (00.10 น.) ของวันที่ 27 ตุลาคม” CCTV รายงาน พร้อมระบุว่าจะมีการประกาศข่าวการเสียชีวิตอย่างเป็นทางการในภายหลัง
ทั้งนี้ หลี่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรัฐมนตรีภายใต้รัฐบาลของประธานาธิบดีสีจิ้นผิงเป็นเวลา 1 ทศวรรษนับจากปี 2013 โดยถือเป็นผู้มีอำนาจมากเป็นอันดับสองของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ก่อนจะเกษียณจากตำแหน่งเมื่อเดือนมีนาคมปีที่แล้ว
หลี่สำเร็จการศึกษาด้านเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยปักกิ่ง และเป็นที่รู้จักจากนโยบายเศรษฐกิจเชิงปฏิบัติ ซึ่งตลอดช่วงการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเขามีผลงานมากมาย ทั้งด้านเศรษฐกิจ การเงิน การต่างประเทศ ความมั่นคง และการปฏิรูปเชิงลึกของจีน อีกทั้งยังมีบทบาทสำคัญที่ทำให้รัฐบาลจีนเปลี่ยนลำดับความสำคัญในการเติบโตทางเศรษฐกิจที่เน้นด้านการส่งออกเป็นหลัก ไปสู่การมุ่งเน้นการบริโภคภายในประเทศมากขึ้น
นอกจากนี้เขายังได้รับการยกย่องในฐานะผู้นำที่ทำงานเพื่อผู้ด้อยโอกาส และสนับสนุนนโยบายที่มุ่งเน้นการลดช่องว่างความเหลื่อมล้ำทางรายได้
หลี่ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งระดับสูงในพรรคคอมมิวนิสต์แม้จะไม่มีฐานอำนาจใดๆ โดยครั้งหนึ่งเขาเคยถูกมองว่าเป็นผู้ท้าชิงตำแหน่งผู้นำสูงสุดของพรรคคอมมิวนิสต์ ก่อนที่สีจะก้าวขึ้นสู่อำนาจ
นักวิเคราะห์ชี้ว่า หลี่ถูกกีดกันจากอำนาจมากขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงท้ายของการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยสีได้พยายามรวบรวมอำนาจไว้รอบตัว และในช่วงสุดท้ายของการดำรงตำแหน่ง เขากลายเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงเพียงคนเดียวที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มขั้วคนสนิทของสี
ภาพ: Lintao Zhang / Getty Images
อ้างอิง: