เจมี ไดมอน (Jamie Dimon) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ JPMorgan Chase สถาบันการเงินยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ ออกมาเตือนนักลงทุนทั่วโลกว่า อย่ามั่นใจกับประมาณการเศรษฐกิจของรัฐบาลและธนาคารกลางต่างๆ มากจนเกินไป เพราะย้อนกลับไปเมื่อ 18 เดือนก่อนธนาคารกลางหลายแห่ง รวมถึงธนาคารกลางของสหรัฐฯ หรือ Fed ล้วนคาดการณ์ภาวะเศรษฐกิจผิดไปจากข้อเท็จจริงในปัจจุบันอย่างสิ้นเชิง
ไดมอนระบุว่า ย้อนกลับไปในช่วงต้นปี 2022 บรรดาเจ้าหน้าที่ Fed ต่างคาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อที่เร่งตัวขึ้นจะเป็นเพียงปัจจัยชั่วคราว ดอกเบี้ยนโยบายและเงินเฟ้อพื้นฐานจะอยู่ที่ระดับ 2.8% ในช่วงสิ้นปี 2023 แต่ข้อเท็จจริงที่ปรากฏในปัจจุบันคือเงินเฟ้อสหรัฐฯ ยังค้างอยู่ในระดับสูงและดอกเบี้ยนโยบายถูกปรับขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 5.25%
“เราควรเตรียมพร้อมรับมือกับความเป็นไปได้และความน่าจะเป็นต่างๆ แทนที่จะคาดการณ์แบบเฉพาะเจาะจงว่าเศรษฐกิจในระยะข้างหน้าจะออกมาในรูปแบบใด ถ้าดูจากสถิติการคาดการณ์ของแบงก์ชาติในหลายประเทศที่ผิดแบบ 100% ผมคงค่อนข้างระมัดระวังความไม่แน่นอนต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นในปีหน้า” ซีอีโอ JPMorgan Chase กล่าว
ก่อนหน้านี้ไม่นาน ไดมอนได้เคยออกมาเตือนว่า มีความเป็นไปได้ที่ Fed อาจปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายไปจนถึงระดับ 7% เพื่อต่อสู้กับเงินเฟ้อ ซึ่งจะถือเป็นสถานการณ์เลวร้ายทางเศรษฐกิจของโลกที่ในรอบหลายสิบปี นอกจากนี้ เขายังวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลในหลายประเทศที่พยายามปลุกกระแส ESG แต่กลับขาดกลยุทธ์ในการจัดการกับความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรม
อ้างอิง: