Tesla เริ่มตกที่นั่งลำบาก เมื่อกำไรและรายได้ไตรมาส 3 ลดฮวบถึง 40% หลังจากที่ อีลอน มัสก์ กระโดดลงไปเล่นสงครามราคา หวังดึงลูกค้าในหลายประเทศ แต่ไม่ยอมแพ้ เพราะจากนี้ Tesla จะหั่นราคารถ EV ให้ถูกลงไปอีก
Nikkei Asia รายงานว่า Tesla รายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2023 ว่า บริษัทมีรายได้สุทธิอยู่ที่ 1.9 พันล้านดอลลาร์ ลดลง 44% ถือว่าต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ โดยสัดส่วนรายได้หลักๆ มาจากยอดขายกลุ่มยานยนต์ 1.96 ล้านดอลลาร์ ตามด้วยกลุ่มพลังงาน 1.5 พันล้านดอลลาร์ และกลุ่มบริการอื่นๆ 2.1 พันล้านดอลลาร์
ส่วนอัตรากำไรจากการดำเนินงานลดลง 7.6% เนื่องจาก Tesla มีการลดราคาเพื่อกระตุ้นความต้องการกลุ่มลูกค้าเป้าหมายหลายครั้ง ทั้งในตลาดอเมริกา จีน ญี่ปุ่น และไทย รวมถึงค่าใช้จ่ายในการพัฒนา Cybertruck ที่เพิ่มขึ้นไม่หยุด ตลอดจนการพัฒนาซอฟต์แวร์ ฮาร์ดแวร์ AI รวมทั้งปรับปรุงโรงงานและกระบวนการผลิตให้ทันสมัยมากขึ้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- อีลอน มัสก์ ถึงขั้นกล่าวว่า “เราขุดหลุมศพของเราเองด้วย Cybertruck”…
- EXCLUSIVE: ลุ้น Tesla ตั้งโรงงานผลิต EV ในไทยอีกครั้งได้หรือไม่? หลังนายกฯ เตรียมเสนอแพ็กเกจ…
- 1,599,000 บาท ตัวเลข ‘ตลาดเดือด’ สารท้ารบโดยตรงจาก Tesla Model 3 ที่ส่งถึง BYD SEAL…
อีลอน มัสก์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า เราจำเป็นต้องใช้กลยุทธ์ลดราคาเพื่อเพิ่มรายได้ ท่ามกลางภาวะที่ผู้บริโภคต้องเผชิญกับอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น ดังนั้นจากนี้เราต้องทำให้รถ EV มีราคาถูกลง เพราะหากดอกเบี้ยสูงขึ้นไปอีก ลูกค้าก็จะตัดสินใจซื้อรถยากขึ้น
ถึงกระนั้นต้นทุนก็มีความสำคัญ โดยปัจจุบันต้นทุนการผลิตรถต่อคันลดลงเหลือประมาณ 37,500 ล้านดอลลาร์ ถือว่าต้นทุนยังสูงอยู่ โดยหลังจากบริษัทอัปเกรดโรงงานใหม่แล้วเสร็จ คาดว่าจะช่วยควบคุมต้นทุนได้ในระยะยาว
ในช่วงระหว่างเดือนกรกฎาคมถึงกันยายน Tesla ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าได้ 430,488 คัน และส่งมอบได้ 435,059 คัน ซึ่งลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ จากข้อมูลของ China Passenger Car Association ระบุว่า โรงงาน Shanghai Gigafactory ยังคงเป็นศูนย์กลางการส่งออกหลัก และยังคงเป็นผู้ส่งออกรถยนต์ไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดในจีน
อ้างอิง: