ทุกวันนี้การเลี้ยงน้องหมาน้องแมวเราต่างไม่ได้มองเขาเป็นแค่สัตว์เลี้ยง แต่เรานับน้องๆ เป็นคนในครอบครัวที่คอยช่วยฮีลใจยามเหนื่อยล้า หากลองมองรอบตัวตอนนี้ก็จะมีโครงการบ้านหรือคอนโดที่เหมาะกับสัตว์เลี้ยงเต็มไปหมด
และถ้าเราจะออกแบบบ้านหรือคอนโดให้เหมาะกับ Pet Friendly เพื่อให้คุณและสัตว์เลี้ยงแฮปปี้ควรทำอย่างไร มาดูกัน!
เรื่องพื้นๆ เลือกวัสดุที่ไม่ลื่นและทนทาน
การเลือกพื้นให้เหมาะกับน้องๆ เป็นเรื่องสำคัญ เพราะเจ้าตัวแสบไม่แคร์ว่าพื้นแบบไหนก็จะวิ่งและร่าเริงตามประสา ซึ่งอาจจะทำให้ลื่นล้ม เป็นอันตราย หรือพื้นมีรอยขีดข่วนได้ เพราะฉะนั้นการเลือกพื้นบ้านจึงเป็นสิ่งแรกๆ ที่จำเป็นสำหรับคนเลี้ยงสัตว์ คำแนะนำคือควรเลือกวัสดุพื้นที่มีพื้นผิวทนรอยขีดข่วน และมีค่ากันลื่นอย่างน้อยระดับ R10 หรือว่ากันง่ายๆ คือมีความฝืดเทียบเท่าพื้นห้องน้ำที่โดนน้ำแล้วไม่ลื่นนั่นเอง
- พื้นกระเบื้องยาง
เหมาะกับเจ้าสี่ขาจอมซ่าบ้าพลังที่ชอบวิ่งซนจนเราต้องคอยเป็นห่วง เพราะกระเบื้องยางเป็นวัสดุที่ทนความชื้น กันน้ำ ดูแลง่าย ลดแรงกระแทก จึงเป็นที่นิยมลำดับต้นๆ สำหรับเหล่า Pet Lover ที่เลี้ยงสัตว์ภายในบ้าน
- พื้นกระเบื้องผิวหยาบ
พื้นผิวมีความด้าน ไม่ทำให้สัตว์เลี้ยงลื่นได้ง่ายๆ และยังทนต่อรอยขีดข่วนหรือการสร้างสรรค์ศิลปะของเหล่าน้องหมาน้องแมวได้อีกด้วย นิยมใช้ในพื้นที่ของสัตว์เลี้ยง เพราะไม่ว่าน้องจะซนจนหัวทิ่มหัวตำแค่ไหนก็ไร้กังวล
- พื้นไม้แท้
เป็นมิตรและสบายต่ออุ้งเท้าน่ารักๆ ของน้อง เพราะสามารถรับแรงกระแทกได้ดี และควรเลือกไม้เนื้อแข็ง เพราะทนต่อรอยขีดข่วน ข้อควรระวังคือจะได้ยินเสียงฝีเท้าสุดซนและควรหมั่นดูแลพื้นไม้ให้ดีอย่างสม่ำเสมอ
เซฟ(ทุก)โซน แบ่งโซนของสัตว์เลี้ยงให้ชัดเจน
การจัดโซนบ้านให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนเป็นเรื่องสำคัญ สัตว์เลี้ยงก็เช่นกัน เพราะน้องๆ จะมีการจดจำพื้นที่ตามที่เราวางไว้ให้ เช่น ตรงนี้เป็นห้องน้ำ ที่กินข้าว ที่นอน หรือที่เอาไว้เล่นซน และยังเป็นการฝึกน้องๆ ให้ใช้พื้นที่เป็นสัดส่วนอีกด้วย
- โซนห้องน้ำ
ควรจัดให้ใกล้กับบริเวณที่มีช่องระบายอากาศสู่ภายนอกได้ เพราะช่วยลดความอับชื้นและกลิ่นเหม็น หรือใครไม่มีเวลา จะใช้ห้องน้ำแบบสำเร็จรูปก็สะดวกดี แต่ถ้าไม่อยากให้มีกลิ่นภายในบ้านเลย แนะนำให้ทำห้องน้ำสัตว์เลี้ยงไว้นอกบ้านหรือระเบียง และทำประตูจิ๋วให้น้องเดินเข้าออกได้เองอย่างสบายใจ
- โซนกินอิ่มนอนหลับ
เซฟโซนชั้นดีที่น้องรู้สึกปลอดภัย เอาไว้พักผ่อน นอนหลับ หรือจะกินอาหาร อาจจะเลือกมุมใดมุมหนึ่งในบ้านหรือคอนโดที่เงียบสงบ หรือจะเปลี่ยนพื้นที่เก็บของใต้บันไดให้กลายเป็นห้องนอนส่วนตัวสุดน่ารักก็เป็นอีกไอเดียที่น่าสนใจและน่ารักไม่เบา
- โซนซุกซน
เมื่อแมวกับการลับเล็บเป็นของคู่กัน ฉะนั้นควรมีกล่องฝนเล็บให้แมวได้เล่นสนุกวางไว้มุมใดมุมหนึ่งของห้อง หรือถ้าพื้นที่น้อยจะสร้างคอนโดแมวติดผนัง (Built-in) ให้เข้ากับสไตล์ของห้องเราเลยก็ได้ ส่วนน้องหมา อย่าลืมพาน้องออกไปเล่นข้างนอกบ้านให้เขาได้ออกกำลังกายบ้าง เพราะสัตว์เลี้ยงก็ล้วนอยากออกไปสูดอากาศดีๆ เหมือนกันกับพวกเรานี่แหละ
เลือกเฟอร์นิเจอร์และโซฟาแสนรักให้รองรับทุกความซุกซน
เฟอร์นิเจอร์ดูดีมีสไตล์ในสายตาเราอาจกลายเป็นของเล่นชิ้นใหญ่ในสายตาน้องๆ ก็เป็นได้ เพราะการเลี้ยงสัตว์ควรเลือกเฟอร์นิเจอร์ให้ดีและเหมาะกับสัตว์เลี้ยงที่น่ารักของเรา
- ยุคนี้มีโซฟาที่ออกแบบมาเพื่อ Pet Friendly โดยเฉพาะ ไม่ว่าจะทำมาจากไม้เนื้อแข็ง หุ้มด้วยผ้าที่กันขนสัตว์ กันน้ำ ถอดซักง่าย สะดวกสบายไปอีก ที่สำคัญควรเน้นโซฟาที่ทนทานต่อรอยขีดข่วนเพื่อมาต่อกรกับความซนของน้องๆ
- เฟอร์นิเจอร์อื่นๆ อาจเลือกที่มีความแข็งแรง ทนทาน ไม่มีมุมแหลมคม หลีกเลี่ยงการวางของที่แตกได้ในที่ที่อุ้งมือน้อยๆ ของสัตว์เลี้ยงเข้าถึง เพื่อไม่ให้เป็นอันตรายหรือเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุในอนาคต
- เลือกต้นไม้ที่เป็นมิตรกับสัตว์เลี้ยงและสามารถปลูกในร่มได้ เช่น ต้นหมากเหลือง ต้นเศรษฐีเรือนใน หรืออื่นๆ ตามความชอบ อาจใช้กระถางสูงหน่อยเพื่อกันเจ้าจอมซนมาคุ้ยดินเล่น
อากาศโฟลวดี สัตว์เลี้ยงแฮปปี้อารมณ์ดีได้อีก
อีกหนึ่งสิ่งที่บางคนอาจจะมองข้ามไปคือการระบายอากาศภายในบ้านให้ดี มีหน้าต่างเปิดรับให้ลมธรรมชาติถ่ายเทสะดวก เพราะจะช่วยลดปัญหากลิ่นและความอับชื้นภายในบ้าน แถมทำให้ทั้งคุณและสัตว์เลี้ยงรู้สึกผ่อนคลายจนอารมณ์ดีได้อีกด้วย
- เลือกใช้หน้าต่างบานใหญ่ที่ทำให้พื้นที่ภายในดูโปร่งโล่ง และเปิดม่านให้แสงแดดเข้าถึงบ้างในบางคราว ไม่แน่พื้นที่ตรงนี้อาจจะกลายเป็นมุมโปรดของสัตว์เลี้ยง มานอนกลิ้งชิลๆ ตามใจชอบก็เป็นได้
ภาพ: Shutterstock