รู้หรือไม่ ธุรกิจเอสเอ็มอีก็ ‘รีไฟแนนซ์’ ได้

 

การรีไฟแนนซ์สำหรับธุรกิจ เป็นการขอกู้เงินก้อนจากธนาคารใหม่เพื่อปิดบัญชีหนี้กับธนาคารเดิม เพื่อนำเงินมาปิดยอดชำระหนี้ ทำให้สัญญากู้เงินฉบับเดิมสิ้นสุดลง โดยปกติแล้วการรีไฟแนนซ์ควรทำทุกๆ 3 ปี หลักการคล้ายๆ กับการรีไฟแนนซ์บ้าน เพราะส่วนใหญ่แล้วธนาคารมักจะมีโปรโมชันดอกเบี้ยอยู่ที่ 3 ปีแรกของการผ่อนชำระ หลังจากเข้าปีที่ 4 เป็นต้นไป ดอกเบี้ยจะถูกปรับขึ้นเป็นดอกเบี้ยลอยตัว 

 

 

คงไม่ดีแน่ถ้าขาดสภาพคล่องทางการเงินในช่วงเริ่มต้นธุรกิจหรือกำลังวางแผนขยายธุรกิจให้เติบโต เช่นนั้นแล้ว สำหรับคนทำธุรกิจ SMEs การรีไฟแนนซ์ก็เหมือนเป็นการวางแผนบริหารจัดการธุรกิจล่วงหน้า ว่าจะนำเงินส่วนต่างที่ได้จากภาระหนี้ที่ลดลงในแต่ละเดือนไปใช้ทำอะไรในธุรกิจ เช่น ทำการตลาด หรือลงทุนในเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ ที่สำคัญเมื่อมีการยืดระยะเวลาการผ่อนให้นานขึ้น เท่ากับช่วยเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินให้กับธุรกิจอีกทาง หรือต่อให้ธุรกิจไม่มีปัญหาเรื่องสภาพคล่อง ก็นำเงินก้อนที่ได้เก็บไว้เป็นเงินทุนหมุนเวียนหรือเป็นเงินสำหรับลงทุนในอนาคต โดยเฉพาะธุรกิจ SMEs ที่เพิ่งเริ่มต้นหรือกำลังอยู่ในช่วงขยายธุรกิจ ‘เงินทุน’ คือตัวแปรสำคัญ อาจชี้เป็นชี้ตายว่าธุรกิจจะได้ไปต่อหรือพอแค่นี้ เพราะข้อดีของการรีไฟแนนซ์อีกอย่างคือ ผู้ประกอบการยังมีโอกาสได้วงเงินที่สูงขึ้น เมื่อมูลค่าสินทรัพย์เดิมที่เคยใช้ยื่นกู้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันเพิ่มขึ้น หรือระหว่างที่ทำธุรกิจมีสินทรัพย์ใหม่ที่มีมูลค่าสูงกว่าก็นำมาเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันเพื่อเพิ่มวงเงินกู้ได้ 

 

เมื่อการรีไฟแนนซ์สำหรับธุรกิจเป็นเรื่องจำเป็นต่อการเติบโตของธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank ธนาคารเพื่อเอสเอ็มอีไทย จึงออกผลิตภัณฑ์สินเชื่อใหม่ ‘SME Refinance’ ดอกเบี้ยต่ำ อัตราคงที่ ปีแรก 2.99% ต่อปี และช่วง 3 ปีแรก เฉลี่ยอยู่ที่ 3.50% ต่อปี วงเงินกู้สูงสุด 50 ล้านบาท ผ่อนนานสูงสุดถึง 15 ปี เพื่อช่วยเอสเอ็มอีลดต้นทุน เพิ่มความคล่องตัวในการทำธุรกิจ และคว้าโอกาสให้ธุรกิจเติบโตได้เต็มศักยภาพ 

 

 

จุดเด่นของ ‘SME Refinance’ จาก SME D Bank จะช่วยสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจได้อย่างไร?

 

‘SME Refinance’ สินเชื่อที่มาพร้อมเงื่อนไขสุดพิเศษ ดอกเบี้ยต่ำ ในอัตราคงที่ปีแรก 2.99% และช่วง 3 ปีแรก เฉลี่ยอยู่ที่ 3.50% ต่อปี เปิดโอกาสให้ลูกค้าผ่อนหนักเป็นเบา ชำระหนี้ต่อเดือนลดลง จึงช่วยลดภาระด้านการเงินของธุรกิจในแต่ละเดือนได้ เพิ่มความคล่องตัวในการทำธุรกิจ แถมยังลดความเสี่ยงที่ต้นทุนการกู้จะสูงขึ้น 

 

จุดเด่นต่อมาคือให้วงเงินกู้เริ่มต้น 5 ล้านบาท ถึงสูงสุด 50 ล้านบาท และสามารถผ่อนนานสูงสุดถึง 15 ปี นอกจากจะช่วยเติมทุนให้ธุรกิจเดินหน้าต่อได้เต็มศักยภาพ ระยะเวลาผ่อนที่นานขึ้นจะช่วยลดภาระหนี้สินในช่วงที่กำลังขยายธุรกิจ ทำให้ธุรกิจมีเงินสดหมุนเวียนเพิ่มขึ้น 

 

‘SME Refinance’ ยังเปิดโอกาสให้ผู้กู้สามารถเติมเงินทุนเพิ่ม เพื่อลงทุน ขยาย ปรับปรุงกิจการ หรือปรับเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินธุรกิจ หรือเป็นเงินทุนหมุนเวียนเสริมสภาพคล่อง 

 

พิเศษ! ลูกค้าใหม่ยื่นกู้ เติมทุนวันนี้ แถม Cash Back อีก 60,000 บาท 

 

ตอนนี้ SME D Bank จัดโปรโมชันพิเศษ สำหรับผู้ประกอบการที่ยังไม่เคยใช้สินเชื่อจาก SME D Bank มาก่อน เมื่อยื่นกู้และเบิกใช้วงเงินตั้งแต่ 1-50 ล้านบาท ภายในสิ้นเดือนพฤศจิกายน 2566 จะได้รับ ‘Cash Back’ มูลค่าสูงสุด 60,000 บาท โดยมีเงื่อนไขดังนี้ 

 

ต่อที่ 1 เมื่อยื่นกู้ตั้งแต่ 1-50 ล้านบาท Cash Back เงินคืน ‘ค่าประเมินหลักทรัพย์ค้ำประกัน’ มูลค่าสูงสุด 30,000 บาท

 

ต่อที่ 2 เมื่อยื่นกู้ตั้งแต่ 15 ล้านบาทขึ้นไป Cash Back เงินคืน ‘ค่าจดจำนองหลักทรัพย์ค้ำประกัน’ มูลค่าสูงสุด 30,000 บาท 

 

ลูกค้าใหม่ยื่นกู้สินเชื่อ ‘SME Refinance’ เพื่อรับ ‘Cash Back’ มูลค่า 60,000 บาท ตั้งแต่วันนี้ – 30 พฤศจิกายน 2566

 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Call Center 1357 หรือเว็บไซต์ www.smebank.co.th
และ LINE Official Account: SME Development Bank