วันนี้ (13 ตุลาคม) เวลา 18.00 น. ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จักรพงษ์ แสงมณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้การต้อนรับแรงงานชาวไทยในอิสราเอลที่เดินทางกลับมายังประเทศไทย จำนวน 57 คน
จักรพงษ์กล่าวว่า วันนี้สถานการณ์การสู้รบในอิสราเอลถือว่าดีขึ้น มีการหยุดยิงจรวดเป็นระยะเวลาหลายชั่วโมง ตามการรายงานของเอกอัครราชทูตอิสราเอล อีกทั้งเมื่อช่วงเช้าตนได้นัดประชุมกับสายการบินของไทย ประกอบด้วย การบินไทย ไทยแอร์เอเชีย และนกแอร์ ซึ่งได้ข้อสรุปมาค่อนข้างดี เพราะเราจะส่งเครื่องบินไปที่อิสราเอลเกือบทุกวัน โดยมีขั้นต่ำที่จะรับกลับมาได้หลายร้อยคน
แต่ทางการไทยอาจจะมองว่ายังไม่เพียงพอ เราก็พยายามหาช่องทางอื่นๆ คือการพาคนไทยออกจากพื้นที่ในเมืองเทลอาวีฟและพาไปที่อื่น เช่น ดูไบ ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือประเทศตุรกี ซึ่งภาพรวมของการอพยพคนไทยตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไปจนถึงสิ้นเดือน คาดว่าจะมีคนไทยที่กลับมาได้ไม่ต่ำกว่า 4,000 คน
เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมาได้ประชุมศูนย์ฉุกเฉินอพยพคนไทยในอิสราเอล ซึ่งหารือกันในหลายประเด็น โดยประเด็นหนึ่งที่เราอยากจะแจ้งให้คนไทยในอิสราเอลทราบคือ เรามีศูนย์อพยพฉุกเฉินเรียบร้อยแล้ว ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศให้รายละเอียดที่อยู่ หากใครเดือดร้อนก็สามารถไปพักพิงที่ศูนย์อพยพได้
จักรพงษ์ยังกล่าวถึงพื้นที่สีแดงที่มีการสู้รบกันว่า เมื่อช่วงเช้าที่พบกับเอกอัครราชทูตอิสราเอล ได้ให้การยืนยันแล้วว่า คนไทยได้ออกจากจุดเสี่ยงแล้วกว่า 99% โดยเมื่อส่งออกมาแล้วก็จะพาไปส่งที่ศูนย์อพยพต่างๆ ที่อยู่รอบเมือง
ส่วนกรณีที่มีรายงานว่า ชาวไทยที่อพยพเพื่อเตรียมเดินทางกลับประเทศไทยถูกโจมตีระหว่างการเดินทางจนทำให้ต้องลงจากรถเพื่อหาที่หลบนั้น จักรพงษ์กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่เท่าที่ทราบสถานการณ์ที่มีการยิงโจมตีภาคพื้นดินยังมีอยู่ ซึ่งสถานการณ์ในเมืองยังมีความไม่แน่นอนสูงมาก จึงขอให้เข้าใจว่าเราไม่ได้ไม่อยากอพยพคนออก แต่การจะอพยพจะต้องขอจากทางการจริงๆ เพราะมีการปิดถนนในหลายๆ จุด ซึ่งการโจมตีดังกล่าวตนขอตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้ง
จักรพงษ์ยังเปิดเผยถึงตัวเลขแรงงานไทยที่เดินทางกลับในวันนี้ เดินทางกลับมาทั้งหมด 57 คน โดยแบ่งเป็นผู้ที่กลับมาจากการส่งตัวของสถานทูต 19 คน และที่เหลือคือคนที่เดินทางกลับมาด้วยตัวเอง ส่วนผู้ที่เดินทางกลับมาด้วยตัวเอง ยืนยันว่าเป็นไปตามหลักเกณฑ์ทุกอย่างในการช่วยเหลือแรงงาน ไม่ว่าจะผ่านสถานกงสุลหรือไม่ นายกฯ ได้ให้นโยบายมาว่า แรงงานทุกคนที่กลับมาจากอิสราเอล รัฐบาลจะเป็นผู้รับผิดชอบทุกอย่าง
ขณะที่แรงงานไทยที่กลับมาแล้วได้รับบาดเจ็บ จากการประเมินอาการแล้วสามารถพูดคุยได้ และแสดงความประสงค์อยากเดินทางกลับภูมิลำเนาเลย แต่กระทรวงสาธารณสุขอยากให้ตรวจร่างกายก่อน เพราะเดินทางมากว่า 10 ชั่วโมง จึงขอให้ไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล