กองทัพอิสราเอลประกาศเตือนพลเรือนมากกว่า 1 ล้านคนที่อาศัยอยู่ในเมืองกาซา (Gaza City) ให้อพยพลงใต้ภายใน 24 ชั่วโมง ในขณะที่อิสราเอลกำลังรวบรวมรถถังเตรียมเข้าบุกโจมตีกาซาทางภาคพื้นดิน โดยระบุว่าเพื่อตอบโต้กลุ่มติดอาวุธฮามาสที่ยิงจรวดถล่มอิสราเอลเมื่อวันเสาร์ที่แล้ว ซึ่งคร่าชีวิตชาวอิสราเอลมากกว่า 1,300 คน ส่วนใหญ่เป็นพลเรือน
“ขณะนี้เป็นเวลาของสงคราม” โยอาฟ กัลแลนต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของอิสราเอล กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดี (12 ตุลาคม) ในขณะที่เครื่องบินรบของอิสราเอลยังคงโจมตีฉนวนกาซาอย่างต่อเนื่อง โดยขณะนี้มีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตจากการโจมตีตอบโต้ของอิสราเอลแล้วมากกว่า 1,500 คน
กองทัพอิสราเอลประกาศว่าจะเปิดปฏิบัติการครั้งใหญ่ในเมืองกาซาในอีกไม่กี่วันข้างหน้า และแนะนำไม่ให้พลเรือนกลับเมืองจนกว่าจะมีประกาศ
“พลเรือนของเมืองกาซาควรอพยพไปทางทิศใต้เพื่อความปลอดภัยของคุณเองและครอบครัวของคุณ และอยู่ให้ไกลจากผู้ก่อการร้ายฮามาสที่ใช้คุณเป็นโล่มนุษย์” กองทัพอิสราเอลระบุ “ผู้ก่อการร้ายฮามาสซ่อนตัวอยู่ในเมืองกาซา ภายในอุโมงค์ใต้ดินตามบ้าน และภายในอาคารที่มีพลเรือนชาวกาซาผู้บริสุทธิ์อาศัยอยู่”
ขณะที่เจ้าหน้าที่ฮามาสเรียกร้องประชาชนอย่าหลงเชื่อโฆษณาชวนเชื่อจอมปลอม ก่อนที่กลุ่มติดอาวุธได้ออกมาเปิดเผยในเวลาต่อมาว่า การโจมตีทางอากาศครั้งล่าสุดของอิสราเอลได้สังหารตัวประกันที่ทางกลุ่มจับตัวมาจากอิสราเอลไป 13 คน
ด้านทูตปาเลสไตน์ประจำญี่ปุ่นกล่าวหาอิสราเอลว่าพยายามทำลายล้างฉนวนกาซา ในขณะที่องค์การสหประชาชาติระบุว่า เป็นไปไม่ได้ที่การเคลื่อนย้ายของประชาชนจะเกิดขึ้นโดยไม่มีความหายนะด้านมนุษยธรรมตามมา
ด้าน กิลาด เออร์ดาน เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำสหประชาชาติ กล่าวถึงการตอบสนองของสหประชาชาติต่อคำเตือนล่วงหน้าของอิสราเอลที่แจ้งให้ชาวกาซาอพยพออกจากเมืองก่อนการโจมตีว่า “น่าละอาย”
อิสราเอลประกาศก่อนหน้านี้ว่าจะทำลายล้างกลุ่มติดอาวุธฮามาส พร้อมทั้งระบุว่าอุโมงค์ของกลุ่มฮามาส พื้นที่ทางทหาร ที่พักอาศัยของเจ้าหน้าที่ระดับสูง และโกดังเก็บอาวุธ คือเป้าหมายทางทหาร 750 แห่งที่กองทัพอิสราเอลโจมตีในชั่วข้ามคืน
ทั้งนี้ การบุกโจมตีภาคพื้นดินในฉนวนกาซาที่มีภูมิประเทศแคบ และมีประชากรหนาแน่นถึง 2.3 ล้านคนนั้น ก่อให้เกิดความเสี่ยงร้ายแรง โดยกลุ่มฮามาสขู่จะสังหารตัวประกัน
อย่างไรก็ดี หลังคำเตือนของกองทัพอิสราเอล ยังไม่มีสัญญาณว่าประชาชนจะอพยพออกจากเมืองกาซา แต่กลับมีผู้คนจำนวนมากมารวมตัวกันที่โรงพยาบาลอัล-ชิฟา พร้อมประกาศว่าพวกตนจะไม่ย้ายไปไหน
ขณะเดียวกัน คาดว่าจะมีการประท้วงสนับสนุนปาเลสไตน์เกิดขึ้นในหลายประเทศทั่วโลก ขณะที่สหรัฐอเมริกาและผู้นำระดับภูมิภาคเตรียมจัดประชุมเพื่อเตรียมการรับมือกับความขัดแย้งที่อาจลุกลามบานปลายออกไป
สำนักงานเพื่อการประสานงานด้านมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติ (OCHA) ระบุว่า มีประชาชนมากกว่า 400,000 คนในฉนวนกาซาที่ต้องกลายเป็นคนไร้บ้าน และผู้ปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือ 23 คนถูกสังหาร
ด้านคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (ICRC) กล่าวว่า เครื่องปั่นไฟที่โรงพยาบาลในฉนวนกาซาอาจหยุดทำงานภายในไม่กี่ชั่วโมงเพราะไม่มีเชื้อเพลิง ส่วนโครงการอาหารโลกแห่งสหประชาชาติ (WFP) เตือนว่า อาหารและน้ำดื่มกำลังหมดลงเรื่อยๆ จนอยู่ในระดับอันตราย
สำนักงานบรรเทาทุกข์และจัดหางานแห่งสหประชาชาติสำหรับผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์ในตะวันออกใกล้ (UNRWA) กล่าวว่า สำนักงานได้ย้ายศูนย์ปฏิบัติการกลางและพนักงานระหว่างประเทศไปทางใต้ของฉนวนกาซาแล้ว พร้อมกับเรียกร้องให้อิสราเอลละเว้นการโจมตีพื้นที่หลบภัยของ UNRWA
ภาพ: Saeed Qaq / Anadolu via Getty Images
อ้างอิง: