คุณจะทำงานให้กับคนที่คุณไม่เชื่อใจได้หรือเปล่า? ถ้าคำตอบคือไม่ สบายใจได้ว่าคุณไม่ได้มีความคิดที่แปลกประหลาด เพราะความไม่แน่นอน รู้สึกไม่ปลอดภัย ไม่สบายใจจากสิ่งที่คาดเดาไม่ได้ เป็นสัญชาตญาณปกติของมนุษย์ Jennifer Shannon นักบำบัดและผู้เขียนหนังสือ ‘Don’t Feed the Monkey Mind’ บอกว่า “เราไม่อาจผ่อนคลายหรือสงบจิตใจได้จนกว่าจะรู้สึกปลอดภัย”
สรุปง่ายๆ ก็คือ จนกว่าคุณจะเชื่อมั่นและเชื่อใจ ถึงจะรู้สึกมั่นคงและปลอดภัยกับสถานการณ์ตรงหน้า ทว่า ‘ความเชื่อใจ’ ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงชั่วข้ามคืน ต้องใช้เวลาในการสร้าง ทำอย่างสม่ำเสมอ และต้องได้รับการพิสูจน์จากผู้คนที่เกี่ยวข้องมากมาย แต่จะใช้เวลาเพื่อพิสูจน์ทุกเรื่องก่อนตัดสินใจอาจสายเกินไป เพราะในทุกช่วงชีวิต มีสิ่งที่ต้องตัดสินใจเลือกอยู่เสมอ ทุกก้าวที่เติบโตต้องผ่านการตัดสินใจที่สำคัญและยากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะช่วงชีวิตที่กำลังจะก้าวข้ามไปทำความรู้จักโลกใหม่ที่ไม่คุ้นเคย อย่างนักศึกษาที่กำลังจะก้าวเข้าสู่โลกของการทำงาน หรือเจ้าของธุรกิจกับช่วงเวลาที่ต้องตัดสินใจเลือกพันธมิตรหรือคู่ค้าที่เชื่อใจได้ คงไม่คุ้มที่จะลองลงทุนเพื่อพิสูจน์ว่าใครคือคู่ค้าที่คู่ควร แล้วเราจะมีวิธีประเมินความเชื่อใจอย่างไรไม่ให้พลาดสิ่งดีๆ ในชีวิต
ถ้าคุณคือนักศึกษาที่กำลังจะเรียนจบ และต้องเลือกสถานที่ทำงานที่แรกที่เชื่อใจได้ ควรมองหา 3 สิ่งนี้ในองค์กร
- มีความโดดเด่นเรื่องนวัตกรรมและเทคโนโลยีหรือไม่ ยุคนี้ไม่ว่าธุรกิจหรือสายอาชีพไหนก็หลีกเลี่ยงสองสิ่งนี้ไม่ได้ เพราะมันคือกุญแจสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนให้ธุรกิจเติบโต สำคัญยิ่งกว่าคือ มันเป็นเครื่องมือในการสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับโลก
- เปิดพื้นที่ให้เรียนรู้และเติบโตในสายงานอย่างเท่าเทียม หมดยุคโตตามวัยวุฒิ เดี๋ยวนี้ใครมีศักยภาพกว่าต้องไปได้ไกลกว่า แต่จะเกิดขึ้นได้ องค์กรต้องให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เช่นกัน ต้องสนับสนุนและส่งเสริมให้พนักงานได้พัฒนาศักยภาพของตัวเอง และเปิดโอกาสให้ทุกคนเติบโตอย่างเท่าเทียม
- สวัสดิการและสภาพแวดล้อมที่ดี อย่าลืมว่าสภาพแวดล้อมมีผลต่อการทำงานอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความสะอาด ความปลอดภัยในการทำงาน พื้นที่ที่ตอบโจทย์การทำงานที่หลากหลาย และคุณคงไม่ปฏิเสธว่าสวัสดิการดีๆ ค่าตอบแทนที่เหมาะสม วันหยุด และการดูแลจากองค์กร จะทำให้คุณสามารถมี Work-Life Balance ได้
ส่วนเจ้าของธุรกิจที่ธุรกิจกำลังเติบโต การเลือกพาร์ตเนอร์หรือคู่ค้าเป็นสิ่งสำคัญ เพราะทุกการตัดสินใจหมายถึงความอยู่รอดของธุรกิจ สิ่งที่คุณควรหยิบมาพิจารณาก่อนตัดสินใจคือ
- น่าเชื่อถือ โดยดูจากระยะเวลาในการดำเนินงานทางธุรกิจตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท หรือจะดูจากผลงานที่ผ่านมาก็ได้ว่ามีขอบเขตเนื้องานใกล้เคียงกับธุรกิจที่คุณทำอยู่หรือไม่ โดยเช็กข้อมูลจากคนวงในหรืออ่านความเห็นจากโลกออนไลน์
- ทัศนคติและแนวทางในการดำเนินการทางธุรกิจ ต้องสอดคล้องกันกับธุรกิจของคุณ เช่น ให้ความสำคัญกับความซื่อสัตย์ ตรงต่อเวลา ทางที่ดีลองขอคำปรึกษาหรือให้โจทย์ที่เราอยากให้พาร์ตเนอร์ช่วยซัพพอร์ตแล้วดูว่าเขาให้ข้อเสนอที่ตรงกับเป้าหมายของคุณหรือไม่
- มีแนวคิดการทำธุรกิจที่รับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม เป็นประเด็นที่ทุกธุรกิจต้องโฟกัส เพราะจากนี้ไปความยั่งยืนคือหัวใจสำคัญของความสำเร็จ หากอยากให้ธุรกิจยั่งยืน ควรเลือกพาร์ตเนอร์ที่มีแนวทางการดำเนินธุรกิจที่ใส่ใจและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
‘เชื่อใจ’ AGC ผู้นำนวัตกรรมหลากหลายจากประเทศญี่ปุ่นที่พร้อมก้าวไปกับคุณ
คงจะดีถ้ามีบริษัทที่คนมองหางานก็เชื่อใจ คนทำธุรกิจก็เชื่อมั่น และนั่นคือเหตุผลที่ THE STANDARD อยากแนะนำให้คุณรู้จัก AGC ผู้นำระดับโลกด้านการผลิตกระจก อิเล็กทรอนิกส์ เคมีภัณฑ์ ชีววิทยาศาสตร์ (Life Science) พร้อมนวัตกรรมและบริการด้านนวัตกรรมเทคโนโลยีขั้นสูงจากประเทศญี่ปุ่น
ตลอดระยะเวลาการดำเนินธุรกิจกว่า 116 ปี นับตั้งแต่ปี 1907 AGC สะสมทักษะความชำนาญผ่านกาลเวลา นำนวัตกรรม สินค้า และบริการไปตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคู่ค้าทุกกลุ่ม ทั้งระดับอุตสาหกรรม ผู้ผลิต และผู้บริโภค ภายใต้พันธสัญญา ‘Your Dreams, Our Challenge’ ทำให้ AGC ไม่เคยหยุดพัฒนานวัตกรรมที่หลากหลายเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในทุกรูปแบบ ด้วยเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย เพื่อให้ก้าวทันกับไลฟ์สไตล์ของยุคสมัยที่เปลี่ยนไปในปัจจุบัน จนสร้างความเชื่อใจและขยายธุรกิจไปกว่า 30 ประเทศและภูมิภาคทั่วโลก
ปัจจุบัน AGC มีเครือข่ายระดับโลกครอบคลุมทุกทวีป ไม่ว่าจะเป็นทวีปเอเชีย ได้แก่ ญี่ปุ่น ฮ่องกง อินโดนีเซีย จีน อินเดีย เกาหลีใต้ ไต้หวัน เวียดนาม สิงคโปร์ และไทย
หรือในทวีปอเมริกา ได้แก่ สหรัฐอเมริกา บราซิล เม็กซิโก ส่วนทวีปยุโรป AGC มีเครือข่ายอยู่ในประเทศเบลเยียม สาธารณรัฐเช็ก ฝรั่งเศส อิตาลี เนเธอร์แลนด์ สเปน ฮังการี อังกฤษ เยอรมนี และเดนมาร์ก ฟากทวีปแอฟริกาและประเทศในตะวันออกกลางมีสองประเทศคือ โมร็อกโกและดูไบ
เพราะพันธมิตรทางธุรกิจที่ใช่ คือหัวใจของความสำเร็จ
นอกจากจุดแข็งเรื่องความยาวนานของธุรกิจและการมีพาร์ตเนอร์ระดับโลก ในประเทศไทย AGC มีบริษัทในเครืออยู่ 7 แห่ง ดูแลและผลิตผลิตภัณฑ์ที่แตกต่าง เพื่อซัพพอร์ตพาร์ตเนอร์ได้อย่างครอบคลุม โดยแต่ละบริษัทล้วนมีความเชี่ยวชาญที่ต่างกัน ไม่ว่าจะเป็น บริษัท เอจีซี แฟลทกลาส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน), บริษัท เอจีซี ออโตโมทีฟ (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท เอจีซี วีนิไทย จำกัด (มหาชน), บริษัท เอจีซี เทคโน กลาส (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท เอจีซี ไมโคร กลาส (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท เอจีซี เทคโนโลยี โซลูชันส์ (ประเทศไทย) จำกัด และ บริษัท เอจีซี แอดวานซ์ บิสเนส เอ็กซ์เปิร์ทส์ (ประเทศไทย) จำกัด
โดยกลุ่มเป้าหมายหลักเป็นลูกค้าในภาคธุรกิจ B2B โดย AGC จะทำงานร่วมกันในฐานะพาร์ตเนอร์ผู้ผลิต จัดหาวัสดุและบริการด้านต่างๆ ตามความต้องการทางธุรกิจของกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย
ที่ผ่านมา AGC เป็นส่วนหนึ่งของวงการอุตสาหกรรมทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศมาอย่างยาวนาน ด้วยความแข็งแกร่งด้านเทคโนโลยีในการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ผู้บริโภค ภายใต้แนวคิดการดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม AGC จึงพัฒนานวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมอย่างไม่หยุดนิ่ง เช่น
‘SunEwat’ กระจกที่มีระบบผลิตไฟฟ้าโซลาร์เซลล์ในตัว ติดตั้งที่ผนังอาคารเพื่อลดการใช้พลังงาน ผลิตด้วยวัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ได้มาตรฐาน Nearly Zero-Energy Building (NZEB) ซึ่งเป็นมาตรฐานระดับสากลเพื่อรับรองอาคารที่มีการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ
‘Heat Resistant Glassware’ ภาชนะแก้วทนความร้อนสำหรับใช้ในครัวเรือนหลากหลายประเภท เช่น ชาม ถ้วยตวง เหยือกน้ำชา เหยือกกาแฟ ผลิตจากวัสดุแก้วที่มีคุณสมบัติทนความร้อนและสารเคมี ใช้งานได้อย่างยาวนาน จึงช่วยลดขยะและการผลิตที่มากเกินไปให้กับโลก
‘Panoramic Sunroof Glass’ หลังคากระจกรถยนต์แบบพาโนรามา ผลิตจากวัสดุทนความร้อนจากแสงอาทิตย์และอุณหภูมิภายนอก จึงช่วยเพิ่มแสงสว่างและสร้างพื้นที่โล่งภายในรถยนต์โดยไม่ทำให้อุณหภูมิภายในรถเปลี่ยน
‘Optics for Camera’ เลนส์และฟิลเตอร์ที่ให้ภาพถ่ายมีสีสันเป็นธรรมชาติ สามารถใช้กับกล้องดิจิทัล สมาร์ทโฟน กล้องถ่ายภาพที่ใช้กับงานด้านความปลอดภัย กล้องจับภาพรถยนต์ที่ต้องการความแม่นยำสูง
‘EPINITY™’ ผลิตภัณฑ์อีพิคลอโรไฮดริน (Epichlorohydrin) ที่ส่งต่อความยั่งยืนไปสู่อุตสาหกรรม มีคุณลักษณะเป็นฐานชีวภาพ 100% ผลิตจากกลีเซอรีนที่ได้จากน้ำมันพืช นำไปใช้ได้ในหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น เคลือบส่วนประกอบชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ใช้บำบัดน้ำเสียในโรงงานอุตสาหกรรม ใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตกระดาษ หรือผลิตภัณฑ์บำรุงผิว
นอกจากผลิตภัณฑ์ที่ AGC ผลิตวัสดุเพื่อส่งต่อให้ธุรกิจและพาร์ตเนอร์ ยังมีบริการ Engineering Ideas & Solution ที่ช่วยสร้างสรรค์นวัตกรรม พร้อมให้คำปรึกษา เพื่อรองรับความต้องการของพาร์ตเนอร์ธุรกิจ ด้วยทีมผู้เชี่ยวชาญหลากหลายสาขาจากหลายประเทศทั่วโลกอีกด้วย
และอย่างที่บอกไป AGC ดำเนินธุรกิจโดยให้ความสำคัญกับประเด็นเรื่องความยั่งยืน โดยเฉพาะการสร้างสรรค์สังคมที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นคำมั่นสัญญาที่ AGC ทั่วโลกทำร่วมกัน ตั้งเป้าภายในปี 2030 จะต้องดำเนินงานตาม 5 แนวทาง เพื่อพัฒนาคุณภาพของทุกชีวิตให้อยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข ท่ามกลางสภาพแวดล้อมในสังคมที่ดี ให้ธุรกิจของ AGC และพาร์ตเนอร์ดำเนินการต่อไปได้อย่างยั่งยืน ได้แก่
- สร้างเมืองที่ความสะดวกสบายมาพร้อมกับความปลอดภัยด้วยผลิตภัณฑ์จาก AGC
- ใส่ใจทุกไลฟ์สไตล์เพื่อสุขภาพที่ดี ด้วยนวัตกรรมที่พัฒนาเพื่อให้ผู้บริโภคได้ใช้สินค้าที่สะอาด ปลอดภัย และดีต่อสุขภาพ
- ดูแลสังคมให้น่าอยู่ ดีต่อใจ ปลอดภัยกับทุกคน ด้วยความห่วงใยต่อสภาพสังคมในทุกมิติ ทุกพื้นที่การทำงานของ AGC จึงมุ่งสร้างธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับผู้คนและสภาพสังคม เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีควบคู่ไปกับการเติบโตของธุรกิจ
- สร้างพื้นที่การทำงานที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ท่ามกลางบรรยากาศการทำงานที่สร้างสรรค์ สามารถพัฒนาศักยภาพและสร้างการมีส่วนร่วมของพนักงานให้เป็นส่วนหนึ่งขององค์กร เพื่อร่วมกันรังสรรค์ผลงานหรือผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพ
- ร่วมสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีอย่างยั่งยืน ทุกขั้นตอนของการผลิต AGC คำนึงถึงความสำคัญของการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมอยู่เสมอ เรามีเป้าหมายในการสร้างนวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมมาอย่างต่อเนื่อง และจะทำต่อไป เพื่อส่งต่อโลกที่น่าอยู่สู่อนาคต
ตัวอย่างการจัดงานด้านสิ่งแวดล้อมที่ได้รับเสียงตอบรับอย่างดีคือ งาน AGC CSR DAY เรียนรู้เรื่อง ‘ปะการังกับความยั่งยืนของท้องทะเลไทย’ และ ‘วิธีการปลูกปะการังด้วยท่อพีวีซี’ และให้ผู้ที่สนใจร่วมทำกิจกรรม ‘หนึ่งทีมเดียวกัน (One Team)’ ให้ทุกคนได้ลงมือประกอบแปลงและปลูกปะการังด้วยท่อพีวีซี ณ วิหารหลวงพ่อดำ จังหวัดชลบุรี
เพราะบริษัทแรกของชีวิตการทำงาน คือหัวใจสำคัญของความสำเร็จ
เชื่อใจเอจีซี แล้วชีวิตจะได้อะไรดีๆ บ้าง?
ภาพความมั่นคงและแข็งแกร่งของธุรกิจ น่าจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักศึกษาที่มองหาจุดเริ่มต้นชีวิตการทำงานที่ดี แต่มากไปกว่าความมั่นคงของธุรกิจ AGC ยังส่งเสริมและสนับสนุนให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการสร้างสภาพแวดล้อมในการทำงานที่มีคุณภาพ มีทีมที่คอยสนับสนุนซึ่งกันและกัน สิ่งเหล่านี้จะทำให้คนทำงานเชื่อมั่นในศักยภาพของตัวเอง
ยิ่งไปกว่านั้น ยังได้รับโอกาสในการฝึกฝน เพิ่มทักษะความรู้ จนเกิดเป็นความมั่นใจที่จะพัฒนางานของตัวเองให้ดียิ่งขึ้น ปูทางการเติบโตในสายอาชีพ พร้อมด้วยสวัสดิการที่จำเป็น ค่าตอบแทนที่ดี ทั้งหมดนี้จะช่วยให้ก้าวแรกในชีวิตการทำงานของคุณเต็มไปด้วยความมั่นใจ
การไม่เคยหยุดนิ่งในเรื่องการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ทำให้ AGC เป็นองค์กรที่ทันสมัยอยู่ตลอดเวลาและประสบความสำเร็จมากว่า 116 ปี ซึ่งในประเทศไทยความเชื่อมั่นยังถูกสะท้อนผ่านรางวัลมากมายที่ได้รับ ไม่ว่าจะเป็นการได้รับการรับรองว่าเป็นผลิตภัณฑ์ฉลากเขียว ซึ่งเป็นฉลากสิ่งแวดล้อมของประเทศไทยที่เกิดจากการร่วมมือระหว่างส่วนราชการและองค์กรกลางต่างๆ โดยมีสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมและสถาบันสิ่งแวดล้อมไทยทำหน้าที่เป็นเลขานุการ หรือหนึ่งในบริษัทในกลุ่ม AGC ประเทศไทย ได้รับรางวัลแรงงานสัมพันธ์ดีเด่น ซึ่งเป็นรางวัลสถานประกอบการดีเด่นด้านสวัสดิการและแรงงานสัมพันธ์หลายปีติดต่อกัน
ไปจนถึงรางวัลด้านนวัตกรรมกับรางวัลการออกแบบยอดเยี่ยม Good Design Award ประจำปี 2019 จากผลงานการพัฒนาและผลิต AVEATTOCH™ เทคโนโลยีสถานีฐานแบบกระจก (Glass Antenna) หรือเสาอากาศแบบกระจก และคิดค้นและพัฒนา WAVEATTOCH™ เทคโนโลยีการติดตั้งเสาอากาศหรือเสาส่งสัญญาณคลื่นความถี่ลงบนกระจก เพื่อใช้แทนการติดตั้งเสาอากาศรูปแบบเดิม
ทั้งหมดนี้คือที่มาของ ‘ความเชื่อใจ’ ที่ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงชั่วข้ามคืน แต่ AGC ใช้เวลากว่า 116 ปี ในการสร้าง ลงมือทำอย่างสม่ำเสมอผ่านการสร้างนวัตกรรมที่ดี และต้องได้รับการพิสูจน์จากผู้คนที่เกี่ยวข้องมากมายจากพาร์ตเนอร์และคู่ค้าใน 30 ประเทศทั่วโลก
แล้วคุณล่ะ พร้อมจะ ‘เชื่อใจ’ เอจีซี เพื่อรับสิ่งดีๆ ให้กับธุรกิจและชีวิตแล้วหรือยัง
