วานนี้ (9 ตุลาคม) พิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ให้สัมภาษณ์พิเศษในรายการ THE STANDARD NOW ถึงเหตุการณ์สถานการณ์ความรุนแรงในประเทศอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมว่า ขณะนี้ได้รับรายงานว่ามีผู้เสียชีวิต ตัวเลขยังคงเป็นตัวเลขเดิม โดยได้รับรายงานอย่างเป็นทางการว่ามีผู้เสียชีวิตเพียง 2 ราย ส่วนอีก 10 รายนั้นยังไม่ได้รับการยืนยันจากสถานทูตอิสราเอล
กระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงแรงงานได้ร่วมกันทำงานอย่างหนัก เพื่อดำเนินการอพยพแรงงานไทยจากพื้นที่สู้รบไปยังพื้นที่ปลอดภัย พร้อมวางแผนในการดำเนินการอพยพแรงงานชาวไทยกลับสู่ประเทศไทย โดยยืนยันในการนำแรงงานไทยกลุ่มแรก จำนวน 15 คน กลับสู่ประเทศไทย แบ่งเป็น 2 เที่ยวบิน เที่ยวบินแรก LY081 จำนวน 5 คน และเที่ยวบินที่สอง LY083 จำนวน 10 คน ซึ่งแรงงานชาวไทยจะเดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิในวันที่ 12 ตุลาคม เที่ยวบินแรกจะถึงในเวลา 10.35 น. และเที่ยวบินที่สองเวลาในเวลา 12.35 น.
ทั้งนี้ พิพัฒน์ได้มอบหมายอัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายแรงงาน) ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล ในการเดินทางเยี่ยมและให้กำลังใจแรงงานที่อพยพจากเขตสู้รบมายังศูนย์หลบภัยแรงงานในประเทศอิสราเอล ซึ่งมีแรงงานไทยอพยพมาพำนักประมาณ 256 คน
สำหรับแรงงานไทยที่ต้องการเดินทางกลับประเทศไทยนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการรออิสราเอลเปิดประเทศให้รับคนไทยกลับ
พิพัฒน์กล่าวต่อว่า ตนเองได้สั่งการทูตแรงงาน ณ กรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล ในการเร่งให้ความคุ้มครอง ดูแล และช่วยเหลือแรงงานไทยที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ครั้งนี้อย่างเต็มที่และรวดเร็วที่สุด ตอนนี้ได้ประสานกระทรวงการต่างประเทศในการวางแผนนำแรงงานไทยกลับมายังประเทศไทยได้อย่างปลอดภัยภายในเวลาอันใกล้นี้ และมีการจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือแรงงานและติดตามสถานการณ์สู้รบในอิสราเอลขึ้นแล้ว เพื่อรับและประสานข้อมูลไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อการเร่งช่วยเหลือ คุ้มครอง ดูแลแรงงานไทยทุกท่านในประเทศอิสราเอลอย่างรวดเร็วที่สุด
ส่วนการช่วยเหลือเรื่องสิทธิประโยชน์จากกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ กรณีแรงงานไทยเป็นสมาชิกกองทุนฯ นั้นจะได้รับความคุ้มครองและสิทธิประโยชน์ตามที่กฎหมายกำหนด กรณีประสบปัญหาจากภัยสงคราม ภัยธรรมชาติ หรือโรคระบาด สงเคราะห์คนละ 15,000 บาท, กรณีเสียชีวิตในต่างประเทศ สงเคราะห์ 40,000 บาท และค่าใช้จ่ายในการจัดการศพ เท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 40,000 บาท, ทุพพลภาพ สงเคราะห์คนละ 30,000 บาท
