ในยุคดิจิทัลและสังคมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว พฤติกรรมของผู้บริโภคก็มีการเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย การเข้าถึงข้อมูลที่รวดเร็ว การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี และการเชื่อมต่อของสังคมออนไลน์ ทำให้ผู้บริโภคมีรูปแบบและวิธีการเลือกซื้อสินค้าหรือบริการที่แตกต่างกันออกไป
เช่นเดียวกับผู้บริโภคที่อยู่ในกลุ่มความมั่งคั่งสูง หรือ Wealth Segment ก็มีพฤติกรรมที่แตกต่างกันมากพอๆ กับผู้บริโภคในกลุ่มอื่นๆ แม้ว่าพวกเขาจะมีรายได้หรือทรัพย์สินสูง แต่วิธีการจัดการและความต้องการทางการเงินของแต่ละบุคคลก็ไม่เหมือนกัน
เช่น บางคนอาจต้องการสนับสนุนธุรกิจส่วนตัว ในขณะที่บางคนกลับมองหาการลงทุนในต่างประเทศ หรือมีความต้องการที่จะรักษาสถานะการเงินของครอบครัวในระยะยาว
ความต้องการด้านการเงินส่วนตัวก็แตกต่างออกไปตามเป้าหมายในชีวิต ความสนใจ และความเข้าใจในด้านการเงินของแต่ละบุคคล ทั้งหมดนี้ส่งผลให้ธนาคารต้องเข้าใจและปรับการให้บริการต่างๆ สอดคล้องกับความต้องการและความคาดหวังของลูกค้าในกลุ่ม Wealth นี้อย่างแท้จริง
“สำหรับ ttb reserve เรายอมรับว่ามาช้ากว่ารายอื่นๆ ในตลาด แต่สิ่งที่เราสร้างความแตกต่างคือ การพัฒนาภายใต้คอนเซปต์ Maximize your infinite wealth for generations อีกขั้นของโซลูชันทางการเงินที่ตอบโจทย์ทั้งด้านการเงิน การลงทุน และไลฟ์สไตล์ พร้อมการดูแลอย่างใกล้ชิดผ่านผู้ดูแลส่วนบุคคล เพื่อต่อยอดความมั่งคั่งจากรุ่นสู่รุ่นได้ไม่มีที่สิ้นสุด” ฐากร ปิยะพันธ์ ผู้จัดการใหญ่ และรักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหารลูกค้าบุคคล ทีเอ็มบีธนชาต กล่าว
อย่างที่บอกว่า แม้แต่ลูกค้ากลุ่มความมั่งคั่งสูงก็มีความต้องการที่แตกต่างกัน ซึ่งปัจจุบัน ทีทีบี มีลูกค้ากลุ่มมั่งคั่งสูง (Wealth) แบ่งเป็นกลุ่มที่ต้องการสะสมความมั่งคั่ง ต้องการมีชีวิตที่มั่นคง อายุ 41-60 ปี ประมาณ 40% ซึ่งกลุ่มนี้จะมองหาการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูง และรับความเสี่ยงสูงได้
และอีกกลุ่มเป็นกลุ่มที่มีสินทรัพย์ที่มั่นคงอยู่แล้ว ต้องการส่งต่อความมั่งคั่งอย่างยั่งยืนให้ลูกหลาน มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ประมาณ 50% เป็นกลุ่มที่ต้องการลงทุนแบบที่มีความเสี่ยงต่ำ แต่ก็ยังคงมองหาการลงทุนในรูปแบบต่างๆ ที่ไม่เสี่ยงมาก ส่วนที่เหลืออีก 10% เป็นลูกค้ากลุ่ม Wealth ที่มีอายุต่ำกว่า 40 ปี
ออกแบบภายใต้แนวคิด ‘Earn Fast – Burn Smart’
สิ่งที่น่าสนใจคือ การยอมรับว่ามาทีหลังในตลาดสามารถถือเป็นข้อได้เปรียบได้ในบางกรณี โดยเฉพาะอย่างยิ่งสามารถสังเกตและเรียนรู้จากความสำเร็จและความล้มเหลวของผู้แข่งขันที่มาก่อน ซึ่งนำมาประยุกต์ใช้และหลีกเลี่ยงความผิดพลาดที่เคยเกิดขึ้นกับผู้อื่น
นอกจากนี้ การมาทีหลังยังให้โอกาสในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีหรือนวัตกรรมใหม่ๆ ที่อาจยังไม่มีในตลาดในขณะนั้น เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น
ซึ่งนี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นกับบัตรเครดิต ttb reserve ที่ถูกออกแบบภายใต้แนวคิด ‘Earn Fast – Burn Smart’ ซึ่ง “ลูกค้าสามารถรับคะแนนเร็วเหนือใคร แลกคะแนนคุ้มค่ากว่าใคร พร้อมสิทธิประโยชน์ที่เพิ่มขึ้นทุกการใช้จ่าย ต่อยอดความมั่งคั่งทั้งด้านการเงิน การลงทุน และไลฟ์สไตล์ที่ลูกค้าสามารถเลือกได้เอง และใช้ได้จริงตามที่ลูกค้าต้องการ” นันทพร ตั้งเจริญศิริ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หัวหน้าบริหารความสัมพันธ์และประสบการณ์ลูกค้าบุคคล ทีเอ็มบีธนชาต กล่าว
นันทพรขยายความต่อว่า สิ่งที่บัตรเครดิต ttb reserve แตกต่างอย่างเห็นได้ชัดคือ เพียงเปิดใช้งานบัตร ลูกค้าจะได้รับคะแนนสะสมพิเศษรายปีสูงสุด 180,000 คะแนน โดยไม่ต้องมีการใช้จ่ายผ่านบัตร เพียงมีผลิตภัณฑ์รวม หรือ AUM ตามที่ธนาคารกำหนด และรับเร็วขึ้นอีกทุกการใช้จ่าย 10 บาท รับ 1 คะแนน (ซึ่งบัตรทั่วไป 25 บาท รับ 1 คะแนน) และรับเร็วยิ่งขึ้นเป็น 2 เท่า สำหรับการจ่ายออนไลน์ และโรงพยาบาล เทียบเท่า 5 บาทรับ 1 คะแนน และรับเพิ่มเป็น 10 เท่าเมื่อซื้อประกันกับทีทีบี
ในขณะที่ Burn Smart นั้นมีการยกตัวอย่างให้เห็นภาพว่า ปกติแล้ว 180,000 คะแนน ที่ได้รับมาฟรีๆ ทุกปี สามารถแลกเป็นเครดิตเงินคืนได้ประมาณ 18,000 บาท ไม่เพียงเท่านั้น ttb reserve ยังมุ่งเน้นเรื่องสร้างความมั่งคั่งด้วยการเปลี่ยนเป็นเงินลงทุนในกองทุน ซึ่งสามารถแลกเป็นเครดิตเงินคืนได้มากขึ้น 21,000 บาท แถมลูกค้ายังสามารถรับผลตอบแทนจากการลงทุนได้อีก หรือแลกเป็นส่วนลดประกันได้อีกด้วย หรือจะใช้คะแนนแลกเป็นของกำนัลจากแคตตาล็อกพิเศษของ ttb reserve ที่มีบริการให้เลือกหลากหลาย เช่น ลิมูซีนรับส่งสนามบิน, แพ็กเกจตรวจสุขภาพ, สปา, กรีนฟีสนามกอล์ฟ และของกำนัลพิเศษอื่นๆ อีกมากมาย
“นี่คือสิ่งที่เราแตกต่างกว่า เอกสิทธิ์หรือสิทธิประโยชน์ทางการเงินไม่ได้จบแค่เรื่องไลฟ์สไตล์ แต่เป็นเรื่องสร้างความมั่นคงทางการเงิน ให้มั่งคง ยั่งยืน และสามารถต่อยอดทางการเงินได้”
ไม่หมดเท่านั้น ยังมีสิทธิประโยชน์พิเศษสำหรับผู้ถือครองบัตร เช่น ฟรีค่าธรรมเนียมแปลงสกุลเงินต่างประเทศ 2.5% และรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 50% กับร้านอาหาร Fine Dining ชั้นนำกว่า 20 ร้าน
“ใครๆ ก็พาไปกินร้านอาหารได้ แต่การได้ส่วนลด 50% ในรูปแบบเครดิตเงินคืนมีไม่มากแน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งร้านอาหาร Fine Dining ที่หลายแห่งแค่จองก็ยากแล้ว แต่เรายังมีสิทธิประโยชน์ให้ลูกค้ามากขึ้นไปอีก”
2 ปีมีลูกค้าแล้ว 40,000 ราย
จากการเปิดตัวบัตรเครดิต ttb reserve เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ปัจจุบันทีทีบีได้มีการยึดโยงลูกค้าผ่านบัตรเครดิต ttb reserve เพื่อสร้างความแตกต่างและตอบโจทย์ความต้องการได้ดีขึ้นให้กับลูกค้ากลุ่มมั่งคั่งสูง (Wealth) ไปแล้วกว่า 40,000 ราย โดยมีมูลค่า AUM หรือมูลค่าสินทรัพย์ทั้งหมดภายใต้การจัดการกว่า 5 แสนล้านบาท
“ตั้งแต่ต้นปีเรามีลูกค้าใหม่ประมาณ 7,000 ราย ในจำนวนนี้ 4,500 รายเป็นลูกค้าใหม่ ซึ่งชี้ให้เห็นว่า ttb reserve ประสบความสำเร็จในการพัฒนาจนตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า” ฐากรกล่าว
ฐากรยังได้ฉายภาพสถิติที่เกิดขึ้นกับ ttb reserve ที่เกิดขึ้นในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาอีกว่า ให้คะแนนลูกค้าไปแล้ว 4,700 ล้านคะแนน โดยลูกค้าที่ได้คะแนนมากที่สุดคือ 16 ล้านคะแนน และลูกค้าที่รูด 1 ครั้งมีมูลค่าสูงสุดที่ 28.5 ล้านบาท
แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ การที่ลูกค้านำคะแนนกว่า 1,000 ล้านคะแนนกลับไปลงทุนหรือซื้อประกัน ซึ่งชี้ให้เห็นว่าลูกค้าให้ความสำคัญกับการต่อยอดความมั่งคั่ง
เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้ากลุ่ม Wealth จึงได้มีการจัดตั้ง Investment Office พร้อมทั้งสร้าง Wealth Management เป็นการต่อยอดและขยายฐานลูกค้าผ่านการนำเสนอโซลูชันทางการเงิน การลงทุนที่หลากหลายมากขึ้น และคัดเลือกให้เหมาะกับตลาด ณ ปัจจุบันเพื่อนำเสนอกับลูกค้าแต่ละกลุ่มอย่างเหมาะสม ผ่านการจัดสัมมนาแนะนำแนวทางการต่อยอดความมั่งคั่ง ไม่ว่าจะเป็นด้านการลงทุน ที่มีการเปิดมุมมองทิศทางการตลาดต่างๆ ที่น่าสนใจ หรือด้านการบริหารความมั่งคั่งจากโซลูชันประกันภัย เพื่อสร้างความสำเร็จให้กับลูกค้ากลุ่มมั่งคั่งสูง (Wealth) และผู้ถือบัตรเครดิต ttb reserve พร้อมนำเสนอโซลูชันต่างๆ เพื่อเป็นเครื่องมือที่จะทำให้ลูกค้าสร้างความมั่นคงทางการเงินได้อย่างยั่งยืน
ส่งต่อความมั่งคั่งผ่านองค์ความรู้
อย่างไรก็ตาม ทีเอ็มบีธนชาตพบว่าลูกค้าที่มั่งคั่งสูง ไม่ได้ต้องการแค่ส่งต่อความมั่งคั่งหรือมรดกให้กับลูกหลานในรูปแบบของตัวเงินเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมไปถึงองค์ความรู้ ทั้งด้านการบริหารธุรกิจ ด้านการศึกษา ตลอดจนการใช้ชีวิต และอนาคตที่มั่นคงของลูกหลานด้วย
“ดังนั้น ทีทีบีจึงมีการพัฒนาโซลูชันทางการเงินและการลงทุนใหม่ๆ ในรูปแบบ Wellness Investment ที่เป็นโซลูชันที่มีความเสี่ยงต่ำ คุ้มครองเงินต้น แต่ยังได้ผลตอบแทนที่สูงกว่าเงินฝาก เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่หลากหลาย เช่น หุ้นกู้อนุพันธ์แฝงอ้างอิงดัชนี ttb MSCI China A Economy Transformation Select 5% Risk Control Index เป็นผลิตภัณฑ์แรกออกมาเพื่อช่วยบริหารและต่อยอดความมั่งคั่งให้กับลูกค้าแต่ละรายได้มากขึ้นผ่านแพลตฟอร์ม ttb reserve” ณัฐวรรณ อภิรัตนพิมลชัย รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หัวหน้ากลยุทธ์ลูกค้าบุคคลและประสบการณ์ลูกค้าช่องทางรวม ทีเอ็มบีธนชาต กล่าว
ทีทีบียังมีแผนขยายกลุ่มลูกค้า Family หรือกลุ่มครอบครัว ที่ปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 19,000 รายของลูกค้า Wealth ทั้งหมด โดยแบ่งเป็น ‘กลุ่มครอบครัวพ่อแม่ที่ต้องการวางแผนด้านการศึกษาเพื่ออนาคตของลูก’ และนำเสนอโซลูชันที่ตอบโจทย์ตั้งแต่เริ่มวางแผนการศึกษาไปจนถึงกำลังศึกษาอยู่ เช่น การวางแผนจ่ายค่าเทอมสำหรับพ่อแม่ที่จะส่งลูกเรียนต่างประเทศ และมีแผนจ่ายค่าเทอมต่างประเทศที่แน่นอนอยู่แล้ว ซึ่งธนาคารมีบริการบัญชีเงินฝากเงินตราต่างประเทศ (Foreign Currency Deposit: FCD) ให้ผลตอบแทนในรูปแบบของดอกเบี้ยสูงถึง 5% ต่อปี ช่วยลดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนของสกุลเงิน และลดความยุ่งยากเรื่องการโอนเงินไปต่างประเทศ ด้วยบริการโอนเงินผ่านสมาร์ทโฟน 6 สกุลเงิน ไปยัง 36 ประเทศปลายทางได้รับเงินเต็มจำนวน ค่าธรรมเนียมเพียง 150 บาท สำหรับโอนให้ลูกที่ศึกษาอยู่ที่ต่างประเทศ
และ ‘กลุ่มครอบครัวสูงวัยที่ต้องการส่งต่อมรดกให้ลูกหลานแบบไร้กังวล’ กับโซลูชันในรูปแบบประกัน ด้วยประกันชีวิต ‘เดอะ เทรเชอร์’ (The Treasure) หรือการคุ้มครองชีวิตและสุขภาพทั้งครอบครัวกับประกันชีวิตและสุขภาพ ทีทีบี อีซี่ แคร์ พลัส เป็นต้น
นอกจากนี้ยังมีสิทธิประโยชน์ของบัตรเครดิต ttb reserve ที่ตอบโจทย์แต่ละช่วง ไม่ว่าจะเป็นช่วงที่ต้องจ่ายค่าเทอม สามารถจ่ายด้วยบัตร ttb reserve สะดวก รวดเร็ว และถ้ารูดจ่ายผ่านออนไลน์ จะได้รับคะแนน 2 เท่า กรณีจ่ายเป็นสกุลเงินต่างประเทศฟรีค่าธรรมเนียมแปลงสกุลเงินต่างประเทศ 2.5%
และถ้าต้องเดินทางไปส่งลูกเพื่อเรียนต่อ สามารถจองตั๋วเครื่องบิน ที่พัก ผ่านออนไลน์ จะได้รับคะแนน 2 เท่า และยังมีบริการความคุ้มครองทั้งครอบครัวสำหรับการเดินทางทั้งในและต่างประเทศ พร้อมทั้งใช้บริการห้องรับรองที่สนามบินทั่วโลกได้ 2 ครั้งต่อปี
ส่วนช่วงที่ลูกกำลังศึกษาอยู่ สามารถสมัครใช้เป็นบัตรเสริมสำหรับค่าใช้จ่ายต่างๆ สะดวก สบาย ไม่ต้องโอน สามารถใช้บัตรเพื่อจ่ายค่าที่พัก ค่ากินอยู่ ฟรีค่าธรรมเนียมแปลงสกุลเงินและยังได้คะแนนสูง โดยทุกการใช้จ่าย 10 บาท รับ 1 คะแนน
การพัฒนาทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่ “ttb reserve หมายมั่นปั้นมือที่อยากจะสร้างชีวิตทางการเงินของคนไทยให้ดีขึ้น ทั้งในวันนี้และอนาคต” ฐากรกล่าวทิ้งท้าย
ผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง https://www.ttbbank.com/th/reservestd2 หรือสอบถามเพิ่มเติมที่ ttb reserve เบอร์โทรศัพท์ 0 2010 1428