วันนี้ (26 กันยายน) ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก นัดฟังคำพิพากษาคดีที่พนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง อานนท์ นำภา ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน และแกนนำกลุ่มราษฎร เป็นจำเลยในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และข้อหาอื่นๆ รวม 9 ข้อกล่าวหา เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2564
คดีนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม จากการปราศรัยในการชุมนุม #ม็อบ14ตุลา ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยต่อเนื่องมายังทำเนียบรัฐบาล เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลทำตาม 3 ข้อเรียกร้อง 1. พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ลาออก 2. ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ 3. ปฏิรูปสถาบันฯ
โดยคดีนี้อานนท์ใช้เวลาต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรมกว่า 2 ปี กระทั่งศาลนัดฟังคำพิพากษา ซึ่งนับเป็นคดีแรกของอานนท์ในข้อกล่าวหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ที่ศาลจะมีคำพิพากษานับในจำนวนหลายคดีจากการชุมนุมทางการเมืองตั้งแต่ปี 2563
ต่อมาศาลอาญาพิพากษาลงโทษจำคุก 4 ปี ไม่รอลงอาญา พร้อมปรับเป็นเงิน 20,000 บาท ในความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ จากนั้นทีมทนายความยื่นขอประกันตัว โดยวางหลักทรัพย์เป็นเงินสด 200,000 บาท
ล่าสุดเมื่อเวลา 16.16 น. ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานว่า ศาลอาญามีคำสั่งส่งให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาคำสั่งประกันตัว ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาอีก 2-3 วัน ทำให้ในวันนี้อานนท์ต้องถูกนำตัวไปคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร โดยภายหลังทราบคำสั่งของศาลอาญา ทนายความได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลอุทธรณ์ไต่สวนคำร้องขอประกันตัวก่อนมีคำสั่ง เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงอย่างเพียงพอ
อย่างไรก็ตาม ตลอดระยะเวลาการสู้คดี อานนท์ได้ถูกคุมขังระหว่างการพิจารณาคดีหลายครั้ง โดยครั้งที่นานที่สุดอานนท์ถูกคุมขังราว 7 เดือน ซึ่งการคุมขังดังกล่าวเป็นการคุมขังระหว่างการพิจารณาคดีโดยยังไม่มีคำพิพากษาจากศาลแต่อย่างใด
ภาพ: ธนัญชัย แก้วโสวัฒนะ / Thai News Pix