ครม. เห็นชอบมาตรการพักชำระหนี้เกษตรกร ระยะที่ 1 ให้กับเกษตรกรรายย่อย 2.7 ล้านคน เริ่มลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2566 จนถึงวันที่ 31 มกราคม 2567 โดยผู้ร่วมโครงการฯ ยังขอกู้เงินใหม่ได้อีกวงเงินสูงสุดไม่เกิน 1 แสนบาท เพื่อให้เกษตรกรสามารถยืนได้อย่างมั่นคงหลังการพักชำระหนี้
วันนี้ (26 กันยายน) คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบมาตรการพักชำระหนี้ให้กับลูกหนี้รายย่อย ตามนโยบายรัฐบาล ระยะที่ 1 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการพักชำระหนี้เกษตรกรระยะเวลา 3 ปี ตามที่รัฐบาลได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภาเมื่อวันที่ 11-12 กันยายน 2566 โดยมีรายละเอียดมาตรการดังนี้
โดยเกษตรกรลูกค้ารายย่อยธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ที่มีสิทธิ์จำนวน 2.698 ล้านราย จะได้รับสิทธิ์ในการพักชำระหนี้ระยะแรกดำเนินการ 1 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2566 – 30 กันยายน 2567
นอกจากนี้เพื่อเพิ่มศักยภาพและฟื้นฟูลูกหนี้ผู้เข้าร่วมมาตรการ ธ.ก.ส. ยังเปิดโอกาสให้ผู้ที่เข้าร่วมโครงการฯ กู้เพิ่มอีก หรือเติมสินเชื่อเสริมสภาพคล่องในการประกอบอาชีพ วงเงินไม่เกิน 1 แสนบาท (Extended Load) เพื่อส่งเสริมและฟื้นฟูการประกอบอาชีพให้มีรายได้เพิ่มขึ้นในระหว่างการพักชำระหนี้
จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กรอบวงเงินสำหรับมาตรการนี้อยู่ที่ 1.2 หมื่นล้านในปีแรก หรือราว 3 หมื่นล้านบาทตลอด 3 ปี โดยแหล่งเงินดังกล่าวมาจากมาตรา 28 ตามแห่งพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) วินัยการเงินการคลัง
คุณสมบัติผู้มีสิทธิ์
- ลูกค้า ธ.ก.ส. ที่มีต้นเงินคงเป็นหนี้ ทุกสัญญา รวมกันไม่เกิน 3 แสนบาท ณ วันที่ 30 กันยายน 2566
- มีสถานะเป็นหนี้ปกติ และ/หรือ เป็นหนี้ค้างชำระก็ได้
- ทั้งนี้ สำหรับลูกหนี้ที่มีสถานะเป็น NPLs จะสามารถเข้าร่วมมาตรการพักชำระหนี้ได้ เมื่อได้มีการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ตามหลักเกณฑ์ของ ธ.ก.ส. แล้ว
สิทธิพิเศษสำหรับผู้เข้าร่วมโครงการพักชำระหนี้
- ถ้าเป็นหนี้ปกติ (ผู้ที่ค้างชำระหนี้ 0-3 เดือน) ธ.ก.ส. จะเปลี่ยนลำดับการตัดชำระหนี้ต้นเงินและดอกเบี้ยในอัตราส่วน 50:50 ของเงินที่นำมาชำระในแต่ละคราว
- กรณีเป็นหนี้ค้างชำระ (Non-Performing Loans: NPLs) ธนาคารจะตัดเงินต้นให้ร้อยเปอร์เซ็นต์ หรือจัดสรรชำระต้นเงินให้ทั้งจำนวนที่ลูกค้าส่งชำระในแต่ละคราว
เริ่มลงทะเบียนเมื่อไร
- ทั้งนี้ การแสดงความประสงค์เข้าร่วมมาตรการพักชำระหนี้จะต้องเป็นไปตามความสมัครใจของลูกหนี้
- โดยผู้ที่สนใจสามารถแจ้งความประสงค์ได้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2566 จนถึงวันที่ 31 มกราคม 2567 (รวม 4 เดือน)
ลงทะเบียนที่ไหนและทำอย่างไร
ธ.ก.ส. ได้จัดวางระบบให้เกษตรกรลูกค้าแจ้งความประสงค์เข้าร่วมมาตรการพักชำระหนี้ฯ ผ่านแอปพลิเคชัน BAAC Mobile
โดยใช้หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชนของผู้แสดงความประสงค์ พร้อมหมายเลขโทรศัพท์ที่สามารถติดต่อได้ จากนั้นระบบจะมีการประมวลข้อมูลตรวจสอบคุณสมบัติ
หากเข้าเกณฑ์ผู้มีคุณสมบัติตามมาตรการ ธ.ก.ส. จะนัดหมายลูกค้าและผู้ค้ำประกันไปที่สาขาหรือจุดบริการที่นัดหมาย เพื่อจัดทำเอกสารที่เกี่ยวข้อง
อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่เกษตรกรไม่สะดวก สามารถติดต่อแจ้งความประสงค์เข้าร่วมมาตรการที่สาขาใกล้บ้านทั่วประเทศ ซึ่งพนักงานจะอำนวยความสะดวกในการแจ้งความประสงค์ผ่าน BAAC Mobile เพื่อเข้าสู่ระบบการประมวลผลและตรวจสอบสิทธิ์เช่นเดียวกัน
กระทรวงการคลังคาดว่ามาตรการพักชำระหนี้เกษตรกรดังกล่าวจะมีส่วนช่วยในการเพิ่มสภาพคล่องให้เกษตรกรรายย่อยให้สามารถมีรายได้เหลือเพียงพอต่อรายจ่ายที่จำเป็นในครัวเรือน รวมถึงมีโอกาสขยายการลงทุนในการประกอบอาชีพและการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตให้ดียิ่งขึ้น ขณะเดียวกันการพัฒนาศักยภาพเพื่อฟื้นฟูลูกหนี้ ซึ่ง ธ.ก.ส. ดำเนินการร่วมกับหน่วยงานภายนอกอย่างบูรณาการ จะช่วยยกระดับการดำรงชีพของเกษตรกรให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น อันจะนำไปสู่การเพิ่มกำลังซื้อในระบบเศรษฐกิจฐานราก เพื่อสร้างความมั่นคงของเกษตรกรและเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืนต่อไป