พีระพันธุ์เชิญ สส. พรรคก้าวไกล หารือและตอบข้อซักถาม แลกเปลี่ยนข้อมูลปัญหาพลังงาน ย้ำมีกฎหมายหลายฉบับต้องแก้ไขให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน เพื่อให้เอื้อต่อการจัดหาพลังงานให้ประเทศ พร้อมรับโจทย์แผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าฯ (PDP) ไปปรับปรุง รองรับไฟฟ้าที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
รายงานข่าวระบุว่า พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เชิญผู้เกี่ยวข้องเกี่ยวกับการลดราคาพลังงานของกระทรวงพลังงานมาหารือ ประกอบด้วย วีรพัฒน์ เกียรติเฟื่องฟู รองปลัดกระทรวงพลังงาน, วัฒนพงษ์ คุโรวาท ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน, นันธิกา ทังสุพานิช อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน และ พัทธ์ธีรา สายประทุมทิพย์ รองอธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน
โดยก่อนหน้านี้พีระพันธุ์ได้ทำหนังสือเชิญ ศุภโชติ ไชยสัจ สส. บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เข้าหารือด้วยในฐานะที่ได้ยื่นกระทู้สดถามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานในสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 21 กันยายน เกี่ยวกับการดำเนินนโยบายด้านพลังงาน แต่พีระพันธุ์ติดภารกิจในจังหวัดชุมพร ไม่สามารถมาตอบกระทู้ถามสดในสภาได้ จึงได้นัดผู้ยื่นกระทู้หารือถึงปัญหาด้านพลังงานในครั้งนี้ โดยมี วรภพ วิริยะโรจน์ สส. บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล และ เดชรัต สุขกำเนิด ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยนโยบายเพื่ออนาคต พรรคก้าวไกล มาพบปะและแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อตอบข้อซักถาม
พีระพันธุ์กล่าวว่า หลังเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้มอบนโยบายจากมุมมองที่ว่า พลังงานไม่ใช่เรื่องธุรกิจ แต่ให้มองเป็นเรื่องของความมั่นคง เรื่องความเป็นอยู่ของประชาชน และเป็นความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ ดังนั้นจึงต้องหาความสมดุลและความเหมาะสมของทั้งสองฝ่าย
ตอบปมแก้ค่าไฟแพงระยะยาว
สำหรับประเด็นที่เป็นห่วงเรื่องปัญหาค่าไฟในระยะยาว พีระพันธุ์ชี้แจงว่า รัฐบาลไม่ได้หยุดแค่การลดราคาไฟฟ้าราคานี้เท่านั้น แต่เนื่องจากเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องเร่งแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้ประชาชนในระยะสั้น จึงต้องรีบทำก่อน โดยส่วนที่สามารถลดราคามาได้เป็นเพราะขอยืดหนี้จาก กฟผ. ออกไป และส่วนของต้นทุนก๊าซธรรมชาติที่ลดลง จึงทำให้สามารถลดราคาค่าไฟให้ประชาชนลงได้อีก
พีระพันธุ์กล่าวอีกว่า กรณีของราคาก๊าซธรรมชาติที่ประเทศไทยนำมาใช้ผลิตไฟฟ้า ซึ่งมี 2 ส่วนคือนำเข้าจากต่างประเทศและส่วนที่ได้มาจากอ่าวไทย เป็นนโยบายที่ตนได้นำเสนอมาก่อนหน้านี้ และทางคณะของพรรคก้าวไกลก็เห็นด้วย โดยเสนอว่าให้นำมาเฉลี่ยต้นทุนเพื่อให้ประชาชนได้ใช้ราคาค่าไฟที่เป็นธรรม แทนที่จะนำไปขายให้กลุ่มปิโตรเคมีในราคาถูก ซึ่งจะได้ดำเนินการต่อไป
สำหรับแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ (PDP) ที่ทางคณะพรรคก้าวไกลเสนอให้นักวิชาการภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม รวมถึงประเด็นการศึกษากำลังไฟฟ้าสำรองที่จะเกิดในอนาคต จะรับโจทย์ดังกล่าวไปศึกษาจัดทำเป็นนโยบายต่อไป
สถานการณ์เปลี่ยนแปลง มีกฎหมายหลายฉบับต้องแก้
พีระพันธุ์ย้ำว่า ยังมีกฎหมายเดิมด้านพลังงานอีกหลายเรื่องต้องได้รับการแก้ไข เพราะกฎหมายหลายฉบับดำเนินการมาในอดีต แต่ปัจจุบันสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไป จึงเห็นว่าต้องรื้อตรวจสอบแก้ไขให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน เพื่ออำนวยต่อการจัดหาพลังงานให้กับประเทศ และให้ประชาชนได้ใช้พลังงานในราคาที่เหมาะสมและเป็นธรรม
ทั้งนี้ การเชิญ สส. พรรคก้าวไกลมาหารือ เพื่อให้เกิดความเข้าใจตรงกัน ตนมีภารกิจไม่ได้ไปตอบกระทู้สดในสภา และเกรงว่าจะมีภารกิจต่อไป อาจจะเข้าใจผิดหาว่าหลีกเลี่ยง จึงได้เชิญ สส. พรรคก้าวไกลมาร่วมหารือในวันนี้ เพราะเป้าหมายคือประโยชน์ของประชาชนเหมือนกัน
“ได้รับการรายงานจากกรมธุรกิจพลังงานว่า โอกาสลดราคาน้ำมันเบนซินมีความเป็นไปได้ แต่มีวิธีการโครงสร้างหลากหลาย ส่วนข้อเสนอให้เปิดโอกาสนำเข้าน้ำมันเสรีก็ยังมีเกณฑ์ที่จะต้องพิจารณาอยู่ เดือนตุลาคมนี้คาดว่าจะได้คำตอบ ตอนนี้กำลังจะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อกำกับเรื่องนี้โดยเฉพาะ”
ด้าน ศุภโชติ ไชยสัจ สส. บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า ทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี เพราะประชาชนฝากดูแลราคาค่าไฟระยะยาว มาตรการรองรับการปรับโครงสร้างราคาใหม่ การจัดทำแผน PDP ที่โปร่งใส ทำให้เห็นว่ารัฐมนตรีพลังงานรับฟังความคิดเห็น ทั้งเรื่องค่าไฟ ราคาน้ำมัน หรือปัญหาด้านพลังงานอื่นๆ ถือว่าเป็นการประชุมที่บรรยากาศเป็นไปด้วยดี
