วันนี้ (18 กันยายน) สมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) กล่าวถึงการต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า ไม่ได้อยู่ในการดูแลของ ศอ.บต. โดยตรง เป็นเรื่องของสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ซึ่งตนได้ติดตามทราบว่ารัฐบาลชุดเดิมได้ยกเลิกไปบางอำเภอ เหลือประมาณ 21 อำเภอที่ยังคงสถานะเดิมอยู่ โดยในอนาคตจะมีการพิจารณาทุก 3 เดือน ตามอายุ พ.ร.ก. เพื่อจะพิจารณาว่าควรจะต่อหรือยกเลิก เพราะไม่สามารถยกเลิกทั้งหมดได้ในทีเดียว
สมศักดิ์ยังปฏิเสธถึงกระแสข่าวการพักโทษ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และไม่ทราบว่าจะมีการยื่นขออภัยโทษเพิ่มเติมหรือไม่ เพราะตนเป็นผู้กำกับดูแล แต่ไม่ใช่คนสั่งการ และหากมีตนจะได้รับพิจารณาเอกสารที่รัฐมนตรีหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับงานที่ตนกำกับดูแลก่อนที่จะนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี แต่ตอนนี้ยังไม่มี
ส่วนกรณีหากแก้ไขรัฐธรรมนูญเสร็จสิ้นจะมีการยุบสภาหรือไม่ สมศักดิ์ระบุว่า เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญและการบริหารงานของรัฐบาลคงไม่เกี่ยวกัน ซึ่งหลายคนอาจวิเคราะห์ระยะเวลาในการร่างรัฐธรรมนูญและแก้ไขรัฐธรรมนูญ เปรียบเทียบกับระยะเวลาที่นายกรัฐมนตรีกำหนดเรื่องการทำนโยบายต่างๆ ของรัฐบาล และนำมาพูดให้เป็นเรื่องเดียวกัน แต่ตนขอยืนยันว่าเป็นคนละเรื่อง จึงไม่ขอคำนวณเวลาที่พูดออกไปแล้วอาจทำให้ประชาชนเกิดความสับสน
นอกจากนี้ สมศักดิ์ยังกล่าวถึงการแก้ไขปัญหายาเสพติดที่นายกรัฐมนตรีประกาศว่าจะเอาจริงเอาจังและจัดการให้เสร็จภายในหนึ่งเดือนว่า ดีใจที่นายกรัฐมนตรีเอาจริงเอาจัง และส่วนตัวมองว่าในระดับรัฐมนตรีทำเรื่องนี้ไม่สำเร็จ เพราะไม่ใช่งานที่ใครจะทำให้สำเร็จก็ได้ เพราะการปราบยาเสพติดต้องใช้ทั้งสี่ขาคือ ป.ป.ส., ปปง. ที่เข้ามาจัดการเรื่องการยึดทรัพย์ ซึ่งเป็นกำลังสำคัญหลัก รวมถึงตำรวจที่จะเป็นฝ่ายจับกุม สืบสวนสอบสวนขยายผล และกรมสรรพากรที่เข้ามาดำเนินการภายหลังการตรวจสอบทรัพย์สิน