วันนี้ (16 กันยายน) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะอดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์คำสัมภาษณ์ถึงการแก้รัฐธรรมนูญเสร็จจะยุบสภาคืนอำนาจให้ประชาชนว่า จุดยืนของรัฐบาลตนไม่สามารถตอบได้ เนื่องจากต้องพูดคุยกัน ซึ่งเราเริ่มต้นด้วยการทำงานกับพรรคก้าวไกลในการจัดตั้งรัฐบาล แต่ MOU กับพรรคก้าวไกลก็ถูกยกเลิกไป ทำให้ต้องมาจับมือกับ 11 พรรคร่วมรัฐบาล เราเองก็มีเจตนาที่จะทำเหมือนที่ทำ MOU กับก้าวไกล คือต้องไปทำประชามติก่อน ถ้าพี่น้องประชาชนเห็นชอบด้วยว่าจะทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ คำถามคือถ้าเราพ่วงคำว่าการตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) มันก็จะมีคำตอบตรงนั้น และเอาคำตอบตรงนั้นมาแก้ 2 ระบบผ่านกระบวนการรัฐสภา นำไปสู่ขั้นตอนการทำประชามติ เมื่อทำประชามติหมายความว่ารัฐธรรมนูญถูกแก้ก็จะมีการยกร่าง ใช้เวลากี่เดือนก็ว่ากันไป และจะเข้าสู่กระบวนการนำเสนอเพื่อเป็นรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และทำประชามติขั้นตอนสุดท้ายก่อนนำมาใช้
นพ.ชลน่านกล่าวต่อว่า จะมีการยุบสภาหรือไม่ต้องไปดูบริบทที่เกี่ยวข้องทั้งหมดว่าทำเสร็จในเวลาเท่าไร หากทำเสร็จเร็วก็เป็นเงื่อนไขว่าสามารถตอบสนองต่อความต้องการพี่น้องประชาชนได้หรือไม่ เพราะรัฐบาลไม่ได้ผูกมัด
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ต้องคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ในเรื่องการยุบสภา นพ.ชลน่านระบุว่า เป็นขั้นตอนที่เราระบุไว้อยู่แล้ว แต่ในทางปฏิบัติ ถ้าเราทำเองในฐานะผู้ดูแลเรื่องนี้ก็ต้องไปตั้งคณะทำงานขึ้นมาพิจารณาเรื่องกระบวนการวิธีการว่าเขาจะเห็นด้วยตามนี้หรือไม่อย่างไร หากมีมติเห็นชอบตามนี้ก็ต้องผลักดันไปตามนี้ พร้อมย้ำว่าต้องคุยกัน และต้องคำนึงถึงพื้นฐานที่ว่าจะเกิดประโยชน์สุขกับพี่น้องประชาชน