วันนี้ (15 กันยายน) ปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง แถลงข่าวถึงกรณีที่ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ลาออกจากหัวหน้าพรรคก้าวไกลเพื่อเปิดให้พรรคขึ้นมาเป็นผู้นำฝ่ายค้าน ซึ่งเกี่ยวข้องกับตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง
ว่าสิ่งที่ชัดเจนหลังจากที่ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ได้ลาออกจากหัวหน้าพรรคก้าวไกล คณะกรรมการบริหารทั้งชุดต้องสิ้นสภาพไปด้วย ในเรื่องนี้ต้องคุยกับคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่เท่านั้น โดยพรรคก้าวไกลจะมีการประชุมวิสามัญเร็วๆ นี้ และหลังจากนั้นคงต้องมาว่ากัน
สำหรับกระแสข่าวการขับออกจากพรรคก้าวไกลเพื่อให้มีผู้นำฝ่ายค้านคนใหม่ และยังรักษาตำแหน่งประธานสภาผู้แทน คนที่หนึ่งนั้น ปดิพัทธ์กล่าวว่า เราเรียกสิ่งนี้ว่าข้อจำกัดทางรัฐธรรมนูญ ไม่มีประเทศไหนที่มีข้อจำกัดเช่นนี้ เช่น ตนได้รับการเลือกตั้งในสภาขึ้นมาดำรงตำแหน่ง และได้รับการโปรดเกล้าฯ มา จึงไม่ควรจะมีข้อจำกัดพวกนี้มาบีบให้ต้องมาทำอะไรที่ไม่ตรงไปตรงมา
“ถ้าข้อจำกัดมีแบบนั้น และทางพรรคเห็นสมควร อย่างไรนั้นก็เป็นเรื่องของพรรค ผมก็ทำงานของผมเต็มที่” ปดิพัทธ์กล่าว
เมื่อถามว่ายินดีหรือไม่หากทางพรรคก้าวไกลมีมติออกมา และพร้อมปฏิบัติตามอย่างไร ปดิพัทธ์กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่รู้มติ ต้องขอกลับไปดูมติก่อน และคิดว่าต้องกลับไปคุยกับคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่เท่านั้น ว่าแนวทางต่างๆ จะเป็นอย่างไร ยังยืนยันว่าสิ่งที่พรรคก้าวไกลตัดสินใจจะเป็นประโยชน์ไม่ใช่ต่อพรรคเองเท่านั้น เราคิดถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติ ดังนั้นปัจจัยเหล่านี้เมื่อมาคิดรวมกันทั้งหมดจะมุ่งมั่นทำงานเต็มที่ได้