วันนี้ (13 กันยายน) จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล 2.50 บาทต่อลิตร เพื่อให้ระดับราคาน้ำมันอยู่ที่ 30 บาทต่อลิตร เป็นการช่วยลดค่าครองชีพให้กับประชาชน โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 20 กันยายน – 31 ธันวาคม 2566 ซึ่งจะเป็นหนึ่งกลไกในการช่วยให้ราคาน้ำมันปรับลดลงเหลือไม่เกิน 30 บาทต่อลิตรได้ ส่วนการปรับลดราคาน้ำมันเบนซินนั้นขณะนี้ยังรอการพิจารณาอยู่
นอกจากนี้ที่ประชุม ครม. ยังมีมติลดอัตราค่าไฟฟ้าจาก 4.40 บาทต่อหน่วย เป็น 4.10 บาทต่อหน่วย โดยใช้งบประมาณ 1.5 หมื่นล้านบาท เพื่อยืดหนี้ให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย โดยจะมีผลทันบิลค่าไฟปัจจุบันคือ เดือนกันยายน-ธันวาคม 2566
และที่ต้องทำควบคู่กันคือ การพิจารณาปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อให้ปรับลดราคาในอนาคต เบื้องต้นอาจต้องใช้งบประมาณอยู่ที่ประมาณ 1.5 หมื่นล้านบาท โดยรายละเอียดทั้งหมดกระทรวงพลังงานจะชี้แจงรายละเอียดต่อไป
“เรื่องของไฟฟ้า สิ่งเดิมที่ทำจากรัฐบาลก่อน จริงๆ ยังมีกลไกอื่นที่ต้องคุยกับภาคเอกชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เชื่อว่าเป้าหมายที่ทำยังสามารถดูแลได้อีก และลดราคาค่าครองชีพให้กับประชาชนได้ โดยที่ประชุมได้มีการพูดคุยกันว่าสามารถทำได้อีก” จุลพันธ์กล่าว
จุลพันธ์กล่าวต่อว่า ที่ประชุม ครม. มีมติให้ขยายระยะจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตรา 7% จากที่ต้องเก็บ 10% ต่อไปอีก 1 ปี จากวันที่ 1 ตุลาคม 2566 – 30 กันยายน 2567 ส่วนมาตรการพักหนี้และมาตรการเงินดิจิทัล นายกรัฐมนตรีสั่งการให้มีการตั้งคณะทำงานขึ้นมาศึกษาความเหมาะสมของโครงการ ก่อนจะนำเข้าสู่การพิจารณาของ ครม. ต่อไป