วันนี้ (12 กันยายน) ที่รัฐสภา เซีย จำปาทอง สส. พรรคก้าวไกล ลุกขึ้นอภิปรายโดยระบุว่า ผิดหวังที่ไม่มีนโยบายด้านแรงงาน ซึ่งการแช่แข็งการขึ้นค่าแรงเนื่องจากสถานการณ์โควิด และมีการปรับขึ้นเพียงแค่ 10 บาทนั้น ถือว่าไม่เพียงพอต่อการดำรงชีพ ขณะเดียวกันการคุ้มครองแรงงานถือว่าล้าสมัย ทั้งกฎหมายแรงงานที่มีการบังคับใช้ตั้งแต่ปี 2541 การเลือกปฏิบัติในการจ้างงาน เวลาทำงานที่มากเกินไป และปัญหาอื่นๆ ที่รัฐบาลต้องแก้ไข
เซียกล่าวว่า ที่ผ่านมาทุกสิ้นปีจะได้ยินข่าวบางโรงงานได้โบนัส ซึ่งมาจากอำนาจการต่อรองและการรวมตัวของแรงงาน แต่ส่วนใหญ่ไม่ได้โบนัส เนื่องจากกฎหมายลิดรอนสิทธิของแรงงาน ในประเทศไทยมีสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจที่รวมตัวกัน 45 แห่งเท่านั้น ขณะที่เอกชนมีเพียง 1,427 แห่ง ซึ่งถือว่ายังไม่ครอบคลุม แม้จะมีการยื่นหนังสือมาหลายครั้ง แต่รัฐยังไม่ให้การรับรอง ค้างจ่ายกองทุนประกันสังคม 7 หมื่นกว่าล้านบาท และยังไม่มีการจัดตั้งบอร์ดประกันสังคม แม้จะผ่านมา 2 ปีกว่า ซึ่งแรงงานไม่ว่าไทยหรือต่างด้าวควรจะต้องมีสิทธิเลือกบอร์ดประกันสังคมของตัวเอง พอกันทีกับการได้บอร์ดไม่ดี หนี้ไม่จ่าย เงินหาย ไม่ได้สิทธิประโยชน์เพิ่มเติม
เซียยังกล่าวถึงคำสัญญาที่พรรคเพื่อไทยให้ไว้กับแรงงานในวันแรงงานแห่งชาติที่ผ่านมาว่า จะยกระดับรายได้ของพี่น้องประชาชนทั้งระบบ ผ่าน 2 นโยบาย คือ ค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาทต่อวัน และเงินเดือนปริญญาตรี 20,000 บาทต่อเดือน ภายในปี 2570 นอกจากนี้ยังเสนอเพิ่มเงินดิจิทัล 10,000 บาท ยกระดับแรงงานทั้งระบบ ส่งเสริม 30 บาทรักษาทุกโรค และคุ้มครองสิทธิแรงงาน สิทธิการลาคลอด ทำกฎหมายให้ทันสมัย แต่สิ่งที่เกิดขึ้นมีเพียงนโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาท และยกระดับ 30 บาทรักษาทุกโรคเท่านั้น
“นายกฯ ครับ ก่อนหน้านี้ท่านออกแถลงการณ์ด่ารัฐบาลชุดที่ผ่านมาว่าละเลยการดูแลคุณภาพชีวิตแรงงาน แช่แข็งค่าจ้าง ไม่ให้สิทธิในการรวมตัว ท่านอุตส่าห์กระเสือกกระสนดิ้นรนจนได้เป็นรัฐบาล ท่านก็ละเลยเช่นเดียวกับรัฐบาลที่ผ่านมา ท่านก็ไม่สนใจแรงงาน เช่นเดียวกับรัฐบาลที่สืบทอดอำนาจเขาทำ หรือท่านศีลเสมอกัน ถึงจับมือกอดคอหัวร่อตั้งรัฐบาลกันได้ เรียนท่านประธานผ่านไปยังนายกฯ และพรรคเพื่อไทย ท่านอย่าได้คิดลบนโยบายออกจากเพจของพรรคท่าน อย่าทำเหมือนพรรคการเมืองบางพรรคที่หาเสียงไว้ปี 2562 ก็ปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 425 บาท พอทำไม่ได้ มีคนถามมากๆ มีคนรอมากๆ ก็แอบไปลบออกจากเพจพรรค มันจะว้าวุ่นเอานะ” เซียกล่าว
เซียยังกล่าวกับนายกฯ ด้วยว่า ขอให้ท่านทำตามสัญญาตามที่หาเสียงไว้ ขออย่าปัดตก โดยเฉพาะเรื่องค่าแรงขั้นต่ำที่เป็นผลงานของพรรคเพื่อไทยที่หลายฝ่ายถามว่าสามารถทำได้จริงหรือไม่ แม้จะเคยทำได้จริงในการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทเท่ากันทั่วประเทศ แล้วใครสั่งให้ท่านถอนนโยบายออกจากนโยบาย ท่านทำเองหรือกลุ่มทุนผูกขาดที่เริ่มร่วมโต๊ะเมื่อปลายเดือนสิงหาคมขอร้องท่าน หรือรัฐมนตรีแรงงานกดหัวท่าน ขออย่ายอมให้รัฐมนตรีขี่คอกดหัวเด็ดขาด
ขณะเดียวกันเซียยังสอบถามนายกฯ ด้วยว่า การขึ้นค่าแรงขั้นต่ำโดยเร็วที่สุดจะเกิดขึ้นเมื่อไร ขอให้ประกาศให้ชัด พี่น้องแรงงานจะได้สบายใจ ถ้าท่านยังไม่มีความชัดเจน อาจจะมีคนกล่าวว่าท่านกะล่อนหลอกลวงเหมือนแก๊งคอลเซ็นเตอร์ นโยบายด้านแรงงานไม่ได้ใช้งบประมาณมากมาย แต่ใช้เพียงความกล้าหาญในการปฏิบัติหน้าที่ ขอให้ทำตามที่หาเสียงไว้ก็จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตแรงงานได้