วันนี้ (21 สิงหาคม) ที่งานแถลงข่าวความพร้อมก่อนศึกเอเชียนเกมส์ ณ สนามราชมังคลากีฬาสถาน การกีฬาแห่งประเทศไทย ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย หรือ กกท. ตอบคำถามสื่อมวลชนเกี่ยวกับประเด็นการปรับลดเงินรางวัลนักกีฬาทีมชาติที่เป็นประเด็นอยู่ในขณะนี้
ก่อนหน้านี้มีรายงานข่าวว่า พล.ต. อินทรัตน์ ยอดบางเตย ประธานสหพันธ์สมาคมกีฬาชาติ หรือฟอนซา เปิดเผยว่า กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ กำลังประชุมและมีแนวทางปรับหลักเกณฑ์หลายข้อ รวมถึงการปรับลดเงินรางวัลซึ่งจะกระทบต่อขวัญกำลังใจของนักกีฬา
ซึ่งรายละเอียดการปรับลดเงินรางวัลในคราวนี้ มีตัวอย่างตามที่สยามกีฬานำเสนอข่าวก่อนหน้านี้คือ นักกีฬารุ่นทั่วไป รายการชิงชนะเลิศแห่งโลก ชนิดกีฬาสากลที่มีในโอลิมปิกเกมส์ เหรียญทอง เดิมได้ 1,500,000 บาท จะปรับลดให้เหลือ 1,000,000 บาท รายการชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย ชนิดกีฬาสากลที่มีในโอลิมปิกเกมส์ เหรียญทอง เดิมได้ 600,000 บาท จะปรับลดให้เหลือ 400,000 บาท
ส่วนนักกีฬาเยาวชนและยุวชน รายการชิงชนะเลิศแห่งโลก ที่เป็นชนิดกีฬาสากลที่มีในโอลิมปิกเกมส์ เหรียญทอง เดิมได้ 300,000 บาท จะปรับลดให้เหลือ 200,000 บาท และรายการชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย ชนิดกีฬาสากลที่มีในโอลิมปิกเกมส์ เหรียญทอง เดิมได้ 150,000 บาท จะปรับลดให้เหลือ 100,000 บาท เป็นต้น
โดยเกี่ยวกับเรื่องนี้ ดร.ก้องศักดกล่าวว่า เรื่องดังกล่าวยังอยู่ในการพิจารณา และยังไม่ได้มีการตัดสินใจอย่างเป็นทางการในตอนนี้ โดยหลังจากการประชุมได้ข้อสรุปแล้วจะมีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง
ดร.ก้องศักดยังพูดในประเด็นการจ่ายเงินทีมฟุตบอลชายชุดซีเกมส์ด้วยว่า ต้องจ่ายเงินตามปกติ แต่ในกรณีของผู้ที่ก่อเหตุและสร้างความเสียหายนั้น อาจต้องตัดออกไป ส่วนเรื่องจะได้เงินอัดฉีดเมื่อไรนั้น จะต้องไปตามเรื่องก่อน
อ้างอิง: