วันนี้ (16 สิงหาคม) ภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Phumtham Wechayachai ถึงการจับมือพรรคการเมืองร่วมจัดตั้งรัฐบาล โดยระบุว่า พรรคเพื่อไทยมีจุดกำเนิดต่อมาจากพรรคไทยรักไทย เริ่มต้นขึ้นภายใต้รัฐธรรมนูญ ปี 2540 ที่ร่างขึ้นภายหลังจากวิกฤตการเมือง พฤษภาคม 2535 ครั้งนั้นทหารทุกเหล่าทัพยอมถอยออกจากการเมือง กระทั่งไม่มีใครคิดว่าประเทศไทยจะมีการรัฐประหารอีกแล้ว ต่อมาเมื่อสังคมไทยเกิดความขัดแย้ง แบ่งกลุ่มแบ่งสีกันอย่างรุนแรง พรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน กระทั่งถึงพรรคเพื่อไทย ซึ่งยืนหยัดต่อสู้บนหลักการประชาธิปไตยมาโดยตลอด
“มาถึงวันนี้เรายังคงยืนยันบนหลักการประชาธิปไตยไม่เปลี่ยนแปลง การดำเนินงานการเมืองของพรรคเพื่อไทยในครั้งนี้กับความพยายามคลี่คลายความขัดแย้งที่ดำรงอยู่มาเป็นเวลายาวนานกว่า 20 ปี หัวใจสำคัญคือแต่ละฝ่ายยอมถอยออกคนละก้าว ให้มาอยู่ในจุดที่ทำงานร่วมกันเพื่อสร้างประโยชน์ให้กับประเทศและประชาชน กระบวนทัศน์เดิมในทางการเมืองมองพรรคการเมืองคู่แข่งคือการเอาชนะคะคานกัน กระทั่งปัจจุบันยังเพิ่มอารมณ์เหยียดหยาม”
ภูมิธรรมกล่าวอีกว่า การด้อยค่าอีกฝ่ายที่ไม่ใช่ฝ่ายเราอย่างหนักหน่วง โดยเฉพาะในสื่อสังคมออนไลน์ หากเปลี่ยนมุมคิดโดยใช้การเมือง เป็นเวทีที่ได้พูดคุย แลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน ทำงานร่วมกัน ช่วยสลายขั้วความขัดแย้ง และนำพาบ้านเมืองออกจากหล่มความขัดแย้งดังกล่าว การคิดและดำเนินการเพื่อให้ประสบผลสำเร็จในภารกิจใหญ่เช่นนี้มิใช่เรื่องง่ายสำหรับพรรคเพื่อไทย เพราะในอดีตเราเคยเป็นฝ่ายถูกกระทำมาโดยตลอด
แต่ภายหลังการพูดคุยแลกเปลี่ยนกันภายในพรรค พวกเราได้ข้อสรุปที่ตระหนักดีว่า หากจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีของสังคมอย่างที่ทุกคนคาดหวัง พรรคเพื่อไทยต้องคิดใหญ่ด้วยใจที่ใหญ่ ใจที่กว้าง ภายใต้สถานการณ์ทางเลือกที่คับแคบอย่างยิ่ง พรรคเพื่อไทยจำเป็นต้องทำงานกับความคิด ความรู้สึกของทุกคนภายในพรรคอย่างมาก
เมื่อมองเห็นเป้าหมายที่ใหญ่กว่าผลประโยชน์ของพรรคเพียงฝ่ายเดียว พรรคเพื่อไทยจำเป็นต้องแสวงหาทางเลือกที่ดีที่สุดและเป็นรูปธรรม ภายใต้หลักการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข โดยเปิดใจกว้าง จับมือทำงานร่วมกับทุกพรรคการเมืองที่ล้วนแล้วแต่ได้รับคะแนนเสียงการเลือกตั้งมาจากประชาชนที่หลากหลาย ในจำนวนสัดส่วนที่แตกต่างกัน เพราะนี่คือตัวแทนของประชาชนส่วนหนึ่งของประเทศที่ต่างก็มีสิทธิและเสียงเท่าเทียมกัน
“การตัดสินใจครั้งนี้ของพรรคเพื่อไทยเรายอมเสียต้นทุนทางการเมืองบางส่วนด้วยความเชื่อว่า ‘ทารกที่คลอดจากครรภ์มารดาล้วนผ่านความเจ็บปวดฉันใด การเปลี่ยนแปลงเพื่อสิ่งใหม่ที่ดีขึ้นย่อมต้องผ่านความเจ็บปวดฉันนั้น’ พรรคเพื่อไทยจะใช้ความมุ่งมั่นตั้งใจทำงาน เพื่อพิสูจน์ตัวเองต่อพี่น้องประชาชน เรารับผิดชอบในสิ่งที่เราคิด เราทำ โดยอนาคตจะเป็นบทพิสูจน์ความคิดและความเชื่อของเรา” ภูมิธรรมระบุ
อ้างอิง: