วันนี้ (15 สิงหาคม) จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ กล่าวถึงการปรับเกณฑ์จ่ายเบี้ยผู้สูงอายุว่า คณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติไม่มีการกำหนดนโยบายในการปรับลดเงินและลดจำนวนผู้ที่ได้รับเบี้ยผู้สูงอายุ
โดยก่อนหน้านี้คณะกรรมการฯ ได้เข้าไปแก้ไขปัญหาความซ้ำซ้อน ซึ่งมีจำนวน 30,000 คน ที่นอกจากรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุปกติแล้ว ยังไปรับเบี้ยบำนาญตกทอด เป็นการแก้ปัญหาว่าใครที่รับไปแล้วไม่ต้องนำมาคืน แม้ตามหลักจะสามารถรับได้ทางเดียว
ส่วนแนวทางในการปรับเบี้ยผู้สูงอายุปกติ จุรินทร์กล่าวย้ำว่า ยังไม่มีนโยบายเปลี่ยนแปลง มีแค่การศึกษาว่าจะทำอย่างไรให้การจ่ายเบี้ยสอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งยังไม่มีมติในการลดจำนวนผู้สูงอายุที่จะรับเบี้ยยังชีพแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวมองว่าประเทศไทยควรมีแนวทางในการสนับสนุน Silver Economy เพื่อให้ผู้สูงอายุมีส่วนสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศในทุกด้าน ไม่ใช่ว่าเมื่อถึงอายุ 60 ปีแล้วก็หมดความหมาย
ส่วนที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นการลักไก่ในช่วงรัฐบาลรักษาการ จุรินทร์กล่าวว่า ในฐานะที่เป็นผู้กำกับดูแลในส่วนนี้ ไม่มีการอนุมัติแผนดังกล่าวแต่อย่างใด
เมื่อถามย้ำว่าต้องเป็นอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการฯ ในรัฐบาลชุดใหม่ที่จะเข้ามาปรับแก้นโยบายนี้ใช่หรือไม่ จุรินทร์ระบุว่า ในส่วนของคณะกรรมการฯ ชุดปัจจุบันยังไม่มีความเห็นหรือมติในทิศทางที่ลบและยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง