Goldman Sachs สถาบันการเงินชั้นนำของสหรัฐอเมริกา ออกมาเปิดเผยว่า ในปีที่ผ่านมาเม็ดเงินลงทุนต่างชาติที่ไหลเข้ามายังตลาดหุ้นกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ในเอเชีย (ไม่รวมจีน) มีมูลค่ารวมกันถึง 3.9 หมื่นล้านดอลลาร์ แซงหน้าเงินทุนต่างชาติที่ไหลเข้าไปในตลาดหุ้นจีนที่มีมูลค่า 3.2 หมื่นล้านดอลลาร์เป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี
“เม็ดเงินต่างชาติที่ไหลเข้ามายังตลาดหุ้นของประเทศ EM ในเอเชีย เช่น อินเดียและเวียดนาม ยังคงแรงกว่าเม็ดเงินที่ไหลเข้าไปยังตลาดจีนในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา โดยปัจจัยหลักที่ทำให้นักลงทุนสนใจหุ้นจีนลดลงมาจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ชะลอลงและความกังวลเกี่ยวกับปัญหาในภาคอสังหา อัตราการว่างงานของคนหนุ่มสาวและความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์” ซูนิล โคล นักกลยุทธ์การลงทุนของ Goldman Sachs ระบุ
ฮิโรชิ มัตสึโมโตะ นักวิชาการอาวุโสของ Pictet Asset Management ระบุว่า นักลงทุนอเมริกันและยุโรปมีความกังวลว่าปัญหาความขัดแย้งในช่องแคบในไต้หวันอาจลุกลามบานปลาย ทำให้สินทรัพย์ที่พวกเขาลงทุนอยู่ในจีนมีโอกาสถูกระงับการซื้อ-ขายหรือขายออกได้ยาก เหมือนกรณีของรัสเซียที่ถูกมาตรการคว่ำบาตรต่างๆ หลังการบุกยูเครน
ภาพการลงทุนในหุ้นจีนที่ดูมีความเสี่ยงสูงขึ้นทำให้ในปีที่ผ่านมามีกองทุนขนาดใหญ่ที่เน้นการลงทุนในหุ้นเอเชีย (ไม่รวมจีน) ผุดขึ้นมาถึง 8 กองทุน และมีเพิ่มอีก 4 กองทุนในปีนี้ นอกจากนี้ดัชนี MSCI Emerging Markets Index (ไม่รวมจีน) ในปีที่ผ่านมายังเติบโตได้ถึง 14% เทียบกับดัชนี CSI 300 Index ที่โตได้เพียง 3%
ทั้งนี้ ตลาดหุ้นอินเดียและเวียดนามถือเป็นจุดหมายใหม่ในเอเชียที่นักลงทุนต่างชาติให้ความสนใจ โดยนับจากต้นปีที่ผ่านมามีเงินทุนต่างชาติที่ไหลเข้ามายังตลาดอินเดียสูงเป็นสถิติคิดเป็นมูลค่าถึง 1.28 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าเม็ดเงินที่ไหลเข้าตลาดหุ้นไต้หวันและเกาหลีใต้
โดยนักวิเคราะห์ระบุว่า การขยายตัวของชนชั้นกลางในอินเดีย ซึ่งส่งผลบวกต่อการบริโภคในประเทศ และการที่บริษัทข้ามชาติหลายแห่งเลือกที่จะย้ายฐานการผลิตจากจีนมายังอินเดีย ทำให้ตลาดหุ้นอินเดียมีความน่าดึงดูดเมื่อเทียบกับตลาดอื่นๆ
ขณะที่ตลาดหุ้นเวียดนามก็เป็นอีกหนึ่งจุดหมายสำคัญ โดยในปีนี้ดัชนี VN-Index ได้ปรับเพิ่มขึ้นมาแล้ว 20% เนื่องจากนักลงทุนมองว่า เวียดนามที่จุดแข็งด้านค่าแรงที่ยังอยู่ในระดับต่ำและความมีเสถียรภาพทางการเมือง โดยจะเป็นอีกหนึ่งประเทศที่ได้อานิสงส์จากการย้ายฐานการผลิตออกจากจีน
อ้างอิง: