The New York Times รายงานว่า รัฐบาลสหรัฐอเมริกากำลังเร่งค้นหามัลแวร์จีนที่ฝังตัวอยู่ภายในระบบป้องกันต่างๆ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อกิจการด้านการทหารของสหรัฐฯ โดยเฉพาะมิติของการติดต่อสื่อสารและปฏิบัติการส่งกำลังบำรุง
เจ้าหน้าที่ทางการสหรัฐฯ เชื่อว่า มัลแวร์ที่เป็นอันตรายต่อระบบความมั่นคงของสหรัฐฯ ซ่อนอยู่ในเครือข่ายด้านพลังงาน ระบบการสื่อสาร และระบบน้ำประปาที่หล่อเลี้ยงฐานทัพสหรัฐฯ ซึ่งอาจขัดขวางปฏิบัติการทางทหารของสหรัฐฯ ได้ไม่มากก็น้อย ในกรณีที่เกิดความขัดแย้ง
ด้านเจ้าหน้าที่สภาคองเกรสให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นฉบับหนึ่งว่า มัลแวร์เป็นเหมือนระเบิดเวลาที่อาจทำให้จีนสามารถตัดระบบพลังงานไฟฟ้าและน้ำ รวมถึงเครือข่ายการติดต่อสื่อสารภายในกองทัพ และอาจกระทบต่อพลเมืองอเมริกันจำนวนไม่น้อย
สำนักข่าวต่างประเทศอย่าง CNN รายงานว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาอีเมลของ นิโคลัส เบิร์นส์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศจีน ถูกแฮ็ก ขณะที่เมื่อต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา Microsoft และทำเนียบขาวออกมายืนยันว่า แฮกเกอร์ในจีนเจาะเข้าบัญชีอีเมลในองค์กรสำคัญ รวมถึงหน่วยงานของรัฐบาลกลางจำนวน 24 แห่ง ตั้งแต่ช่วงกลางเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
รัฐบาลสหรัฐฯ เชื่อว่า การแฮ็กที่เกิดขึ้นได้เผยข้อมูลเชิงลึกของสหรัฐฯ ให้ทางการจีนรับรู้ ก่อนหน้าที่ แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ จะเดินทางเยือนกรุงปักกิ่งอย่างเป็นทางการในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดยบรรดากระทรวงที่ตกเป็นเป้าหมาย ได้แก่ กระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงพาณิชย์
โดยเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ได้เน้นย้ำว่า “เราได้แสดงจุดยืนอย่างชัดเจนอย่างต่อเนื่องว่า การกระทำใดๆ ที่พุ่งเป้าไปที่รัฐบาลสหรัฐฯ บริษัทสหรัฐฯ และพลเมืองอเมริกัน เป็นเรื่องที่น่ากังวลอย่างยิ่งสำหรับเรา และเราจะดำเนินการอย่างเหมาะสมเพื่อเอาผิดกับผู้ที่รับผิดชอบ”
ภาพ: Chebakalex7 / Shutterstock
อ้างอิง: