พรรค ฮุน เซน ประกาศชนะเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์ตามคาด

พรรคแคมโบเดียนพีเพิลส์ (Cambodian People’s Party: CPP) ของนายกรัฐมนตรีฮุน เซน แห่งกัมพูชา ประกาศคว้าชัยชนะแบบแลนด์สไลด์ในการเลือกตั้งทั่วไปที่จัดขึ้นวานนี้ (23 กรกฎาคม) ไม่พลิกโผจากที่หลายฝ่ายคาดการณ์กันไว้ ปูทางสู่การถ่ายโอนอำนาจให้กับ ฮุน มาเนต ผู้เป็นบุตรชาย ซึ่งสามารถคว้าเก้าอี้ ส.ส. จากการเลือกตั้งครั้งนี้ได้ด้วยเช่นกัน

หลังจากปิดหีบไปได้หลายชั่วโมง โฆษกพรรค CPP ก็ออกมาเปิดเผยว่า “เราชนะแบบแลนด์สไลด์ แต่ขณะนี้เรายังไม่สามารถคำนวณได้ว่าเราคว้าที่นั่งในสภาไปได้มากน้อยเท่าใด” พร้อมเปิดเผยกับสำนักข่าว AFP ว่าพรรคของเขาชนะไปด้วยคะแนนเสียงประมาณ 78-80% อีกทั้งยังกล่าวด้วยว่าขณะนี้เป็นที่ชัดเจนว่า ฮุน มาเนต สามารถคว้าที่นั่งในรัฐสภาได้สำเร็จ ซึ่งจะส่งผลให้เขามีโอกาสขึ้นครองตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนต่อไปได้หากสภาลงมติเห็นชอบ

คณะกรรมการการเลือกตั้งกัมพูชา (NEC) ประกาศว่า การเลือกตั้งครั้งนี้มีผู้มาลงคะแนนเสียง 8.1 ล้านคนด้วยกัน ซึ่ง ฮุน เซน กล่าวว่า การที่ประชาชนชาวกัมพูชาจำนวนมากออกมาร่วมใช้สิทธิใช้เสียงกันอย่างแข็งขัน พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าการบ่อนทำลายการเลือกตั้งจากฝ่ายตรงข้ามนั้นล้มเหลว อีกทั้งยังกล่าวด้วยว่าคนที่ทำลายบัตรเลือกตั้งเพื่อแสดงท่าทีประท้วงควรไปมอบตัวกับเจ้าหน้าที่เพื่อรับผลทางกฎหมายต่อไป

โดยวานนี้ NEC รายงานว่ามีประชาชน 2 คนถูกจับกุมตัวตามกฎหมายที่ออกมาเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้คนประท้วงต่อการเลือกตั้งที่เกิดขึ้นโดยเฉพาะ โดยผู้ที่ถูกจับกุมรายหนึ่งได้เขียนกากบาทตัวใหญ่ลงบนบัตรเลือกตั้ง และโพสต์รูปดังกล่าวบนโซเชียลมีเดีย ขณะที่อีกคนหนึ่งนำบัตรลงคะแนนเสียงยัดใส่กระเป๋าและเอาไปทิ้งนอกคูหาเลือกตั้ง

การเลือกตั้งที่จัดขึ้นในครั้งนี้ได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง เนื่องจากเป็นที่ทราบกันดีว่า ฮุน เซน นั้นไร้คู่แข่งโดยสิ้นเชิง หลังจากเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา กัมพูชาได้สั่งตัดสิทธิห้ามพรรคแคนเดิลไลต์ (Candlelight Party) ลงสมัครรับเลือกตั้งทั่วไป โดยพรรคแคนเดิลไลต์เป็นพรรคฝ่ายค้านใหญ่เพียงพรรคเดียวที่หลายคนมองว่ามีภาษีมากพอที่จะต่อกรกับพรรค CPP ทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้คือการแข่งขันกันระหว่างพรรคใหญ่ 1 พรรค และบรรดาพรรคเล็กพรรคน้อยอีก 17 พรรคที่ไม่ได้รับความนิยมมากนัก ส่งผลให้ผู้ที่ไม่เห็นด้วยและกลุ่มสิทธิมนุษยชนโจมตีการเลือกตั้งครั้งนี้อย่างหนัก

อนึ่ง เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมานี้ (20 กรกฎาคม) ฮุน เซน ออกมาส่งสัญญาณชัดเจนว่าลูกชายของเขา ‘อาจ’ สามารถเป็นนายกรัฐมนตรีได้ใน 3-4 สัปดาห์ข้างหน้า ขึ้นอยู่กับว่า ‘ฮุน มาเนต จะทำได้หรือไม่’

ภาพ: TANG CHHIN SOTHYAFP

อ้างอิง: