เคธี วูด ซีอีโอและผู้ก่อตั้งกองทุนด้านนวัตกรรมชื่อดัง ARK Investment ออกมาเปิดเผยว่า เธอได้ลดน้ำหนักการลงทุนหุ้นจีนในพอร์ตของ ARK Innovation ETF (ARKK) ลงมาเหลือศูนย์แล้ว หลังจากเศรษฐกิจของแดนมังกรมีแนวโน้มชะลอตัวลง โดยหันมาโฟกัสการลงทุนไปในหุ้นที่เธอมองว่ายังมีศักยภาพในการเติบโต เช่น Tesla, Coinbase, Roku และ Zoom แทน
“ในช่วงที่ตลาดอยู่ในภาวะหมี เราจะให้ความสำคัญกับการลงทุนในธุรกิจที่มีความแข็งแกร่งและเรามั่นใจในศักยภาพก่อน จากการพิจารณาหุ้นในพอร์ตของเราทีละตัว ในที่สุดเราก็เลือกที่จะถอนการลงทุนจากหุ้นจีนทั้งหมด” วูดระบุ
ย้อนกลับไปในช่วงปี 2020 ARK Investment เคยมีสัดส่วนหุ้นจีน เช่น Tencent และ KE Holdings รวมถึงหุ้นในประเทศตลาดเกิดใหม่อื่นๆ สูงถึง 25% แต่จุดยืนของวูดก็เริ่มเปลี่ยนไปหลังจากรัฐบาลจีนออกนโยบายที่มุ่งเป้าโจมตีกลุ่มมหาเศรษฐีในประเทศและอุตสาหกรรมเทคโนโลยี
นอกจากนี้ วูดยังแสดงความกังวลถึงปัญหาในภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีน รวมถึงปัญหาหนี้จำนวนมหาศาลของรัฐบาลท้องถิ่นซึ่งเป็นผลมาจากการเร่งการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา
“GDP จีนเติบโตเป็นตัวเลข 2 หลักติดต่อกันมาถึง 15 ปี การเติบโตดังกล่าวเกี่ยวข้องกับการก่อหนี้จำนวนไม่น้อย โดยเฉพาะในภาคอสังหาริมทรัพย์ และผลลัพธ์ของมันกำลังปรากฏชัดเจนขึ้น” วูดกล่าว
อย่างไรก็ดี ปัจจุบันกองทุน ARK Fintech Innovation ETF (ARKF) ของเธอยังคงถือหุ้นในบริษัทอีคอมเมิร์ซชื่อดังของจีนอย่าง JD.com แม้จะมีการเทขายหุ้น Pinduoduo และ Tencent ออกไปแล้วก็ตาม
วูดระบุว่า ในอนาคตเมื่อตลาดเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะกระทิงรอบใหม่ เธออาจพิจารณากลับเข้ามาลงทุนในหุ้นที่มีความเชื่อมโยงกับจีนอีกครั้ง เพราะกลยุทธ์การลงทุนของเธอในภาวะกระทิงคือกระจายความเสี่ยงในสินทรัพย์ต่างๆ ให้มาก
กองทุน ARKK ของวูดประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในปีนี้ โดยสามารถพลิกกลับมาสร้างการเติบโตได้มากกว่า 50% หลังจากที่ต้องเผชิญกับผลขาดทุนที่สูงลิ่วในช่วงก่อนหน้านี้ โดยปัจจุบันกองทุน ARKK มีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารอยู่เฉียด 9 พันล้านดอลลาร์
อ้างอิง: