หมายเหตุ: บทความนี้มีการเปิดเผยเนื้อหาสำคัญของภาพยนตร์ Lady Bird (2017)
Lady Bird (2017) ถือเป็นผลงานการกำกับภาพยนตร์ขนาดยาวเรื่องแรกของ Greta Gerwig หลังจากเคยฝากผลงานการเขียนบทและนำแสดงมาแล้วหลายเรื่อง เช่น Greenberg (2010), Frances Ha (2012), Mistress America (2015) รวมถึง Nights and Weekends (2008) ที่เป็นผลงานการเขียนบทและกำกับร่วมกับ Joe Swanberg
นอกเหนือจากนี้ Lady Bird ยังเป็นผลงานที่ส่งให้ชื่อของ Greta Gerwig ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์เป็นครั้งแรกในสาขาผู้กำกับยอดเยี่ยมและบทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยม รวมถึงภาพยนตร์ยังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงในรางวัลใหญ่ๆ อีก 3 สาขา ได้แก่ นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม (Saoirse Ronan), นักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม (Laurie Metcalf) และภาพยนตร์ยอดเยี่ยม
โดยหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญที่ส่งให้ Lady Bird ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากชีวิตวัยเด็กของ Greta Gerwig กลายเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ Coming of Age ที่ผู้ชมหลงรัก นั่นคือเรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่างแม่-ลูกอย่าง Christine (Saoirse Ronan) และ Marion (Laurie Metcalf) ที่แม้ทั้งคู่จะมีปากเสียงกันบ่อยๆ แต่ก็ไม่ได้มีใครที่เป็น ‘ตัวร้าย’ ของเรื่องนี้เลย
ทั้งแง่มุมของ Christine ที่ใฝ่ฝันอยากจะหนีออกจากเมืองธรรมดาๆ อย่างแซคราเมนโต ด้วยการสอบเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยชื่อดังในนิวยอร์ก เพื่อจะได้ออกไปเปิดหูเปิดตาในโลกที่กว้างกว่าเดิม แต่ดูเหมือนว่าแม่ของเธอจะ ‘ไม่เชื่อใจ’ ว่าเธอจะสามารถสอบเข้าได้เท่าไรนัก เธอจึงแอบสอบเข้ามหาวิทยาลัยโดยไม่ได้บอกแม่ของตัวเอง โดยมี Larry (Tracy Letts) พ่อของเธอที่กำลังตกงานคอยช่วยเหลือเรื่องค่าเล่าเรียน
นี่ยังไม่นับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ระหว่างทางที่ทำให้สองแม่-ลูกคู่นี้ทะเลาะกันอยู่บ่อยครั้ง ทั้งการที่ Christine พา Danny (Lucas Hedges) และเพื่อนๆ มาปาร์ตี้ที่บ้านในวันขอบคุณพระเจ้า โดยไม่ได้ร่วมฉลองกับครอบครัวอย่างพร้อมหน้า ไม่เก็บเสื้อผ้าให้เป็นที่จนห้องรก ไปจนถึงการที่ Christine ดันไปพูดจาไม่ดีใส่ผู้บรรยายในโรงเรียนจนถูกพักการเรียน และทำให้พวกเธอทะเลาะกันครั้งใหญ่ จนเรียกได้ว่าแม่-ลูกคู่นี้แทบจะมีปากเสียงกันจนเป็นเรื่องปกติ
อย่างไรก็ตาม หากเราลองสลับมามองในมุมของ Marion ดูบ้าง ก็จะพบว่าความจริงแล้วเธอนั้นรักและเป็นห่วงลูกและครอบครัวมากแค่ไหน ทั้งการต้องทำงานที่โรงพยาบาลถึงสองกะเพื่อหาเงินมาดูแลครอบครัวหลังจากสามีของตัวเองตกงาน แถมยังต้องคอยอยู่เคียงข้างสามีในช่วงที่เขาต่อสู้กับโรคซึมเศร้า การรับ Shelly (Marielle Scott) แฟนสาวของ Miguel (Jordan Rodrigues) มาอยู่ด้วยหลังจากที่เธอมีปากเสียงกับครอบครัว ทั้งๆ ที่ครอบครัวของตัวเองก็กำลังเผชิญปัญหาอยู่ ไปจนถึงเหตุผลที่ Marion ไม่อยากให้ Christine ไปเรียนในมหาวิทยาลัยไกลๆ ก็เพราะกังวลว่าเงินที่มีอยู่จะไม่สามารถส่งเสียเธอได้
ไม่เพียงแค่นั้น แม้ว่า Marion จะทะเลาะกับ Christine อยู่บ่อยๆ แต่เธอก็มักจะคอยให้คำปรึกษาและอยู่เคียงข้างในเวลาที่ลูกสาวของตัวเองอ่อนแอเช่นกัน ทั้งการพาลูกสาวไปเลือกซื้อเสื้อผ้าใหม่ เพื่อให้ Christine ใส่ไปหาครอบครัวของ Danny ให้คำปรึกษาลูกสาวเรื่องเซ็กซ์ครั้งแรก ไปจนในช่วงเวลาที่ Christine ทะเลาะกับ Kyle (Timothée Chalamet) Marion ก็พร้อมจะโอบกอดลูกสาวที่กำลังเจ็บปวดโดยไม่ไถ่ถามอะไรเธอมากนัก
ดังนั้นแล้วหากเราลองมองจากทั้ง 2 มุม ทั้ง Christine และ Marion ต่างก็เป็นแม่-ลูกที่รักและห่วงใยกันอยู่เสมอ แม้ว่าพวกเธอจะทะเลาะกันบ่อยๆ ก็ตาม
พร้อมกันนั้นเราก็อาจตีความ ‘สาร’ ที่ Lady Bird ต้องการนำเสนอได้ในแง่มุมหนึ่งว่า บางทีพ่อ-แม่หรือครอบครัวก็สามารถที่จะ ‘เป็นห่วง’ และ ‘เชื่อใจ’ ในตัวลูกๆ หรือเด็กๆ ได้ไปพร้อมกัน โดยไม่จำเป็นต้องคอยห้ามปรามหรือพยายามขีดเส้นให้พวกเขามากเกินจำเป็น
เพียงแค่ปล่อยให้เจ้านกน้อยได้ออกจากกรงเล็กๆ และออกโบยบินสู่โลกอันกว้างใหญ่ ได้ค้นพบ เจ็บปวด และเรียนรู้กับสิ่งต่างๆ ด้วยตัวเองดูบ้าง พร้อมทั้งคอยเปิดประตูค้างไว้ให้พวกเขาหรือเธอได้บินกลับมาพักปีกและเติมพลังก่อนจะออกโบยบินอีกครั้ง
ภาพ: A24
อ้างอิง: