อิสราเอลเดินหน้าประท้วงใหญ่ ต่อต้านแผนปฏิรูปตุลาการของรัฐบาล หวั่นทำลายประชาธิปไตย

ชาวอิสราเอลนับแสนคนออกมาชุมนุมประท้วงใหญ่ต่อเนื่องในเมืองเทลอาวีฟ และอีกหลายเมืองสำคัญทั่วประเทศ เพื่อแสดงจุดยืนต่อต้านแผนปฏิรูประบบตุลาการของรัฐบาลนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ที่ต้องการจำกัดอำนาจของศาลสูงสุด โดยหลายฝ่ายหวั่นแผนปฏิรูปนี้จะกัดกร่อนระบอบประชาธิปไตยของอิสราเอล

นับเป็นการชุมนุมประท้วงที่จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 28 แล้ว นับตั้งแต่รัฐบาลอิสราเอลเปิดเผยว่าจะผลักดันร่างกฎหมายฉบับนี้ เพื่อยกเครื่องอำนาจศาลภายในประเทศนี้ใหม่ โดยจะให้สิทธิรัฐสภาเป็นผู้แต่งตั้งผู้พิพากษาศาลสูงสุด รวมถึงสามารถลงมติคัดค้านคำตัดสินของศาลสูงสุดได้ หากมีคะแนนเสียงถึงเกณฑ์ตามที่ร่างกฎหมายฉบับใหม่กำหนดไว้

โดยร่างแผนปฏิรูประบบตุลาการอิสราเอลฉบับนี้ยังจำเป็นต้องได้รับมติเห็นชอบจากรัฐสภา 2 ครั้ง ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นภายในสิ้นเดือนกรกฎาคมนี้ ก่อนจะประกาศบังคับใช้เป็นกฎหมายหากได้รับมติเห็นชอบ

กลุ่มผู้ชุมนุมเรือนแสนพร้อมใจกันส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือ หรือ SOS ถึงบรรดาประเทศต่างๆ ในประชาคมโลก โดยเฉพาะหนึ่งในพันธมิตรที่ใกล้ชิดที่สุดอย่างสหรัฐอเมริกา ให้ช่วยยับยั้งการผลักดันร่างกฎหมายฉบับนี้ของรัฐบาลเนทันยาฮู

หนึ่งในผู้เข้าร่วมชุมนุมประท้วงใหญ่ในครั้งนี้ระบุว่า “นี่คือการต่อสู้เพื่อประเทศของเรา เราต้องการให้ประเทศแห่งนี้ยังคงเป็นประชาธิปไตย และกฎหมายที่มีความเผด็จการเช่นนี้จะต้องไม่ได้รับมติเห็นชอบ

“สิ่งต่างๆ จะเลวร้ายมากยิ่งขึ้น ผู้คนจะเดินทางออกนอกประเทศ แหล่งเงินทุนจะไหลออกจากประเทศนี้ ประชาคมโลกไม่ต้องการพูดคุยกับเรา ไม่มีใครพึงพอใจหรือเห็นด้วยกับสิ่งที่เกิดขึ้นที่นี้”

โดยเธอยังกล่าวอีกว่า การผ่านร่างกฎหมายจำกัดอำนาจศาลสูงสุดนี้จะส่งผลกระทบต่อสถานะทางการเงินและจุดยืนในประชาคมโลกของอิสราเอลอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้