วันนี้ (10 กรกฎาคม) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) มีรายงานข่าวแจ้งว่า พล.ต.ท. ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) เตรียมลงนามประกาศห้ามชุมนุมในรัศมีไม่เกิน 50 เมตร ตั้งแต่วันที่ 11 กรกฎาคม 2566 เวลา 06.00 น. ถึงวันที่ 14 กรกฎาคม เวลา 00.00 น.
เพื่อประโยชน์แห่งการรักษาความปลอดภัยสาธารณะ และเพื่อให้การจัดการชุมนุมสาธารณะเป็นไปด้วยความเรียบร้อยรอบรัฐสภาในวันที่ 12 กรกฎาคมนี้ โดยมอบหมายให้ พล.ต.ต. รุ่งโรจน์ ฐากูรปุณยสิริ รอง ผบช.น. เป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์บริเวณดังกล่าว กรณีการประชุมร่วมกันของรัฐสภา วาระเลือกนายกรัฐมนตรีในวันที่ 13 กรกฎาคมนี้ และมอบหมายให้ พล.ต.ต. โชคชัย งามวงศ์ รอง ผบช.น. ดูแลพื้นที่บริเวณทำเนียบรัฐบาลและพื้นที่ใกล้เคียงบริเวณโดยรอบ
ด้าน พล.ต.ต. รุ่งโรจน์ กล่าวว่า ทาง พล.ต.ท. ธิติ สั่งการให้มีการจัดกำลังเตรียมความพร้อมของเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมดูแลพื้นที่บริเวณโดยรอบรัฐสภาไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยร่วมปฏิบัติหน้าที่กับหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการจราจร แพทย์ พยาบาล เพื่อช่วยเหลือกรณีมีผู้ป่วยอยู่บริเวณดังกล่าว
พล.ต.ต. รุ่งโรจน์กล่าวต่อว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจมีความพร้อมทุกด้านในการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย และอำนวยความสะดวกด้านการจราจรบริเวณดังกล่าว เพื่อให้การประชุมรัฐสภาเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และดูแลความปลอดภัยสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.)
รวมถึงประชาชนที่จะมาติดตามการประชุมและให้กำลังใจบริเวณดังกล่าว ส่วนด้านการข่าวยังไม่มีสิ่งบ่งชี้ว่าจะมีเหตุความรุนแรงเกิดขึ้นแต่อย่างใด ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะมีการประเมินสถานการณ์วันต่อวัน
นอกจากนี้ ทาง บช.น. ได้มีการเปิดศูนย์ปฏิบัติการ กองบัญชาการตำรวจนครบาล หรือ ศปก.น. (รัฐสภา) ตั้งแต่วันที่ 4 กรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม ได้มีการเดินสำรวจพื้นที่ร่วมกับ วันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร และ พล.ต.ต. อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผบก.น.1 จากการประเมินสถานการณ์ที่ผ่านมา ยังไม่มีปัจจัยใดที่ทำให้มีการชุมนุมโดยใช้ความรุนแรงเกิดขึ้น
ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการซักซ้อมจัดกำลังตามแผน โดยใช้ศูนย์ดังกล่าวเป็นพื้นที่รวบรวมข้อมูลในการควบคุมสั่งการวางแผนร่วมกับฝ่ายการข่าวและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดูแลความปลอดภัยกับอำนวยความสะดวกด้านการจราจร เพื่อรักษาพื้นที่รัฐสภาที่เป็นสัญลักษณ์ของระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขให้ดีที่สุด ทั้งนี้ ฝากเตือนไปถึงประชาชนที่นัดหมายการชุมนุมเพื่อให้กำลังใจในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีว่า ขอให้ปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะฯ และแจ้งการชุมนุมให้ชัดเจน
ขณะที่มีรายงานข่าวแจ้งว่า ทาง บช.น. ได้มีการประสานขอกำลังตำรวจอารักขาควบคุมฝูงชนจากกองบัญชาการอื่นๆ โดยใช้กำลังทั้งหมดดูแลพื้นที่รัฐสภาจำนวน 15 กองร้อย มีการประเมินสถานการณ์จากฝ่ายการข่าวด้วยว่า ในวันที่ 13 กรกฎาคม จะมีผู้มาให้กำลังใจการประชุมรัฐสภาโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีเท่านั้น ประมาณ 100-1,000 คนขึ้นไป
แต่หากการโหวตเลือกออกมามีความขัดแย้งเกิดขึ้น ต้องประเมินสถานการณ์ว่าจะมีการยกระดับการชุมนุมเกิดขึ้นอีกหรือไม่ในการประชุมครั้งถัดไป ทั้งนี้ มีการประเมินว่าอาจมีการชุมนุมเป็นลักษณะแฟลชม็อบนัดกันผ่านโซเชียลมีเดียไปยังจุดต่างๆ เช่น อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร โดยคาดว่ากลุ่มผู้ชุมนุมส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้ชุมนุมที่สนับสนุนให้พรรคก้าวไกลขึ้นเป็นรัฐบาล