วันนี้ (4 กรกฎาคม) ที่ห้องแถลงข่าว อาคารรัฐสภา ภายหลังการโหวตเลือกผู้ดำรงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรและรองประธานสภาผู้แทนราษฎรของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในการประชุมผู้แทนราษฎร ชุดที่ 26 ครั้งที่ 1
พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เชียงราย พรรคเพื่อไทย แถลงหลังได้รับตำแหน่งรองประธานสภาคนที่ 2 ว่าตนเองเพิ่งทราบว่าถูกเสนอชื่อเป็นรองประธานสภาคนที่ 2 เมื่อคืนที่ผ่านมา (3 กรกฎาคม) โดยทางพรรคเล็งเห็นว่าตนทำงานในสภามานาน และตนเองก็เห็นปัญหาของสภามาค่อนข้างเยอะ ตนคิดว่าสภาต้องฟื้นคืนชีพขึ้นมาให้มีศักดิ์และศรี ทั้งตัวสมาชิกและองค์กรของสภา
ส่วนเรื่องการทำงานบางส่วนยังถือว่ามีขีดจำกัด เช่น เรื่องงบประมาณ เนื่องจากสภาได้งบประมาณน้อยและถูกตัดลดงบลง ในส่วนสำนักงานสภาตามต่างจังหวัดที่ตอนนี้มี 5 แห่ง ตนเองจะพยายามทำให้ฟื้นคืนขึ้นมาให้ได้ และจะขยายสำนักงานฯ ให้ครอบคลุมต่างจังหวัดมากขึ้น เพื่อให้ประชาชนแต่ละจังหวัดได้เข้าถึงกระบวนการของฝ่ายนิติบัญญัติ ส.ส. จะได้พาประชาชนที่เดือดร้อนเข้ามาที่สำนักงานสภา จึงจำเป็นต้องใช้งบประมาณอีกจำนวนหนึ่งทำให้สภาเป็นที่พึ่งและเป็นความหวังของประชาชน
พิเชษฐ์กล่าวต่อว่า ตนเองมีความพร้อมในการทำงานอย่างเต็มที่ และมีความคิดว่าจะหารือกับ วันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภา ถึงความเป็นได้ที่จะให้กระทรวงต่างๆ มาพบปะกับสมาชิกสภาอย่างน้อย 6 เดือน 1 ครั้ง เพื่อทำความเข้าใจในการพัฒนาและแก้ปัญหาพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อให้ ส.ส. ได้นำปัญหาเหล่านั้นมาหารือกับกระทรวงที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นโครงการใหม่ที่จะริเริ่มขึ้นโดยต้องมีการประชุมกันก่อน
เมื่อถามว่าจะสามารถแก้ปัญหาสภาล่มได้หรือไม่ พิเชษฐ์กล่าวว่า อยู่ที่การบริหารจัดการของรัฐบาล หากฝ่ายรัฐบาลบริหารสมาชิกและเวลาต่างๆ ได้ ซึ่งตนเองก็เคยเป็นส่วนหนึ่งของสภาล่ม จะพยายามจัดการปัญหานี้ให้ได้ เพราะมีประสบการณ์ตรง