วันนี้ (4 กรกฎาคม) ที่อาคารรัฐสภา นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เปิดเผยภายหลังการโหวตเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎรและรองประธานสภาเสร็จสิ้น โดยขอบคุณ ส.ส. ทั้งหมด ซึ่งการเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎรก็ถือว่าเป็นมติที่เอกฉันท์ เนื่องด้วยมีการเสนอชื่อเพียงชื่อเดียวเท่านั้น
ส่วนเรื่องการโหวตรองประธานสภาก็ถือเป็นกระบวนการตามปกติที่ดำเนินการในข้อบังคับอยู่แล้ว
ในขณะที่การเสนอชื่อบุคคลเป็นนายกรัฐมนตรีซึ่งก็คือ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ก็จะมีแนวทางที่แตกต่างกับการเลือกประธานสภาและรองประธานสภา เพราะการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีเป็นการประชุมร่วมกันของรัฐสภา
นพ.ชลน่านกล่าวว่า กระบวนการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีก็อยู่ที่กระบวนการแสวงหาคะแนนให้ได้มากที่สุดโดยให้ถึง 376 เสียง อย่างไรก็ตามก่อนจะถึงขั้นตอนดังกล่าวก็จะต้องมีการโปรดเกล้าประธานสภาและรองประธานสภาผู้แทนราษฎรเสียก่อน
ส่วนขั้นตอนหลังจากนี้ก็เชื่อว่าจะใช้เวลาไม่นาน เนื่องจากประธานสภาก็จะนัดประชุมเพื่อบรรจุวาระการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี โดยคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ และยืนยันว่าการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีไม่มีแผนสำรอง
ส่วนกรณีเรื่องการเดินหน้าแก้ไขมาตรา 112 ของพรรคก้าวไกล นพ.ชลน่านยืนยันว่า ได้มีการพูดคุยกับพรรคก้าวไกลแล้ว ว่าเรื่องนี้จะไม่เกี่ยวข้องกับนิรโทษกรรม