TPL แจง 3 นักลงทุนดัง ‘สุระ-พงศ์ศักดิ์-AQUA’ ถือหุ้นก่อนเข้าตลาดหุ้น

บมจ.ไทยพาร์เซิล แจงนักลงทุน ระบุผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 3 ราย ทั้ง AQUA, สุระ คณิตทวีกุล, พงศ์ศักดิ์ ธรรมธัชอารี ไม่ได้รับจัดสรรหุ้น IPO ของ TPL ยืนยันปัจจุบันยังถือหุ้นครบ

ภัทรลาภ ทวีวงศ์ ณ อยุธยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ไทยพาร์เซิล หรือ TPL เผยว่า ตามที่ปรากฏข่าวตามสื่อสาธารณะหลายแห่ง เกี่ยวกับกลุ่มบุคคลที่ได้รับการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขายให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ของ บมจ.ไทยพาร์เซิล ซึ่งอาจทำให้นักลงทุนเกิดความเข้าใจผิด โดยบริษัทขอชี้แจงข้อเท็จจริง ดังนี้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

ผู้ถือหุ้นของบริษัทตามที่ปรากฏในข่าว ได้แก่ สุระ คณิตทวีกุล และ พงศ์ศักดิ์ ธรรมธัชอารี นั้นได้เข้ามาลงทุนในช่วงที่บริษัทมีการลงทุนขยายธุรกิจตั้งแต่ในปี 2564 และ บมจ.อควา คอร์เปอเรชั่น หรือ AQUA ได้เข้ามาลงทุนในปี 2565

บริษัทยืนยันว่าผู้ถือหุ้นตามข้อ 1 ทุกราย ไม่ได้รับการจัดสรรหุ้น IPO ตามที่เป็นข่าว และยังคงถือหุ้นจำนวนเท่าเดิม

บริษัทได้รับการยืนยันจากผู้ถือหุ้นตามข้อ 1 ทุกรายว่าไม่ได้มีการขายหุ้นในวันแรก และยังถือหุ้นครบทั้งจำนวน

ทั้งนี้ บริษัทไม่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญด้านโครงสร้างการถือหุ้นและการประกอบธุรกิจ โดยจะนำเงินทุกบาททุกสตางค์ที่ได้รับจากการระดมทุนไปใช้ตามวัตถุประสงค์ที่ได้เปิดเผยไว้ในหนังสือชี้ชวน เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่บริษัทและผู้ลงทุนต่อไป

ภัทรลาภกล่าวต่อว่า แผนในการใช้เงินจาก IPO ในขั้นแรกจะนำเงินไปซื้อยานยนต์ EV ตามแผนการดำเนินงานเพื่อประหยัดต้นทุนเชื้อเพลิงได้กว่า 50% ซึ่งช่วยผลักดันให้มีอัตรากำไรขั้นต้น (Margin) เพิ่มสูงขึ้น รวมไปถึงลงทุนขยายศูนย์คัดแยกสินค้าในต่างจังหวัด ลงทุนไอที และเพิ่มจุดกระจายสินค้า รองรับดีมานด์ลูกค้า SMEs ในต่างจังหวัด เพิ่มฐานรายได้ ทำให้มั่นใจว่ารายได้ในปีนี้จะเติบโตมากกว่า 15% ตามแผนงานที่วางไว้ พร้อมเติบโตอย่างก้าวกระโดดในช่วง 1-3 ปีข้างหน้า

“มั่นใจอนาคตบริษัทเติบโตแบบ High Growth เหตุหลังจากได้รับเงินระดมทุน บริษัทฯ เริ่มเดินหน้าขยายธุรกิจตามแผนทันที คือลงทุน EV Truck – เตรียมระบบ IT – สร้างสถานีชาร์จ – ขยายศูนย์คัดแยกสินค้าในต่างจังหวัด และเพิ่มจุดกระจายสินค้า เพื่อเพิ่มศักยภาพการดำเนินธุรกิจ มั่นใจปีนี้รายได้โตเกิน 15% ตามแผน”

ด้านการเคลื่อนไหวราคาหุ้น TPL วันนี้ (3 กรกฎาคม) เปิดการซื้อขายที่ 2.44 บาท บวกไป 10% โดยระหว่างการซื้อขายราคาบวกขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ 2.54 บาท บวก 14% แต่ราคาหุ้นยังต่ำกว่าราคา IPO ที่ 3.30 บาท

ทั้งนี้ หุ้นเพิ่งเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai วันที่ 30 มิถุนายน เป็นวันแรก ราคาเปิดการซื้อขายที่ 5.90 บาท เพิ่มขึ้น 78.80% จากราคาจองซื้อ IPO ที่ 3.30 บาท

โดยระหว่างการซื้อขายราคาขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ 7.25 บาท เพิ่มขึ้น 120% ส่วนราคาต่ำสุดอยู่ที่ 2.06 บาท ติดลบ 38% ก่อนที่จะมาปิดการซื้อขายที่ 2.22 บาท ติดลบ 33% จากราคาจองซื้อ IPO ที่หุ้นละ 3.30 บาท หลังตลาดหลักทรัพย์ฯ ออกแถลงให้ข้อเท็จจริงและข้อน่าสังเกตเกี่ยวกับสภาพการซื้อขายหุ้น บมจ.ไทยพาร์เซิล ซึ่งเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai วันที่ 30 มิถุนายน เป็นวันแรก และขอให้ผู้ลงทุนศึกษาข้อมูลให้รอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อขาย เนื่องจากพบว่าสภาพการซื้อขายภาคเช้าของวันนี้มีข้อน่าสังเกตหลายประการ และมีแรงเก็งกำไรสูง