วานนี้ (29 มิถุนายน) Niantic บริษัทผู้ผลิตเกม Pokémon GO ประกาศปลดพนักงานกว่า 230 คนตามนโยบายตัดโครงสร้างองค์กรครั้งใหม่ จากปัจจัยกดดันทั้งภายในและภายนอก พร้อมปรับทิศทางของบริษัท รองรับการเติบโตของเทคโนโลยี AR (Augmented Reality) ในอนาคต
John Hanke ประธานบริหารของ Niantic ยังได้ประกาศยกเลิกการผลิตเกมอย่าง NBA All World และ MARVEL World of Heroes เพื่อปรับนโยบายการลงทุนครั้งใหม่ของบริษัท
ซึ่งการปรับโครงสร้างครั้งนี้ของบริษัทเกมยักษ์ใหญ่อย่าง Niantic แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของภาพอุตสาหกรรมเกมครั้งใหญ่ นับตั้งแต่ที่ Pokémon GO เปิดตัวมาในปี 2016
นอกจากนั้นเอง App Store ของทั้ง Google และ Apple ยังมีการปรับรูปแบบการติดตามการโฆษณาของแอปต่างๆ ทำให้ต้นทุนการโฆษณาแพงขึ้นและคาดการณ์ได้ยากขึ้น
รวมไปถึงข้อมูลจาก Data.ai ที่เผยว่า ปริมาณค่าใช้จ่ายสำหรับเกมบน App Store ลดลง 5% ในปี 2020 สู่ระดับ 1.1 แสนล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 3.7 ล้านล้านบาท
โดยในตอนนี้ Niantic ชี้ว่า Pokémon GO ก็ยังเป็นส่วนสำคัญที่สุดของบริษัทที่จะต้องผลักดันไปพร้อมๆ กับการเปลี่ยนผ่านของบริษัทที่จะไปสู่เทคโนโลยีด้าน AR หลังจากที่บริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Apple มีการเปิดตัว Vision Pro ในช่วงที่ผ่านมา
แต่ทั้งนี้ Hanke ก็มองว่า เทคโนโลยี AR มีการเติบโตช้ากว่าที่คาด จากความท้าทายของเทคโนโลยีและรายใหญ่ที่ชะลอการลงทุนในอุตสาหกรรมดังกล่าวจากปัจจัยด้านเศรษฐศาสตร์มหภาค
จากข้อมูลของ Pitchbook เผยว่า Niantic มีพนักงาน ณ สิ้นปี 2022 อยู่ที่ 1,050 คน โดยในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2021 มีการะดมทุนไปครั้งล่าสุดกว่า 300 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 10,000 ล้านบาท) ด้วยมูลค่ากิจการที่ 9,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 30,000 ล้านบาท)
อ้างอิง: