ร้านกาแฟดังอย่าง Starbucks, Gloria Jean’s หรือแม้แต่ 7-Eleven ที่จำหน่ายกาแฟสดถึงคราวต้องปรับตัวครั้งใหญ่ เมื่อศาลในเมืองลอสแอนเจลิสมีคำวินิจฉัยว่า ตามกฎหมายของรัฐแคลิฟอร์เนีย ผู้ประกอบการร้านกาแฟจะต้องติดป้ายเตือนสารก่อมะเร็งกับผู้บริโภค เนื่องจากกระบวนการคั่วเมล็ดกาแฟจะก่อให้เกิดสารเคมีตัวหนึ่งที่เรียกว่า ‘อะคริลาไมด์’ (Acrylamide) ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งที่ถูกเสนอในบัญชีรายการสารพิษที่เป็นอันตรายต่อผู้บริโภคตามกฎหมายของรัฐแคลิฟอร์เนีย
เอลิฮู เบอร์ลี ผู้พิพากษาศาลสูงระบุในคำตัดสินว่า Starbucks และผู้ประกอบการร้านกาแฟแบรนด์อื่นๆ ไม่สามารถแสดงให้ศาลเห็นว่าส่วนประกอบทางเคมีที่เกิดจากกระบวนการผลิตกาแฟคั่วบดไม่เป็นอันตรายร้ายแรงต่อผู้บริโภค
ก่อนหน้านี้ องค์กรไม่แสวงผลกำไรกลุ่มหนึ่งได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้องร้านค้า ผู้แทนจำหน่าย และร้านค้าปลีกกาแฟที่ไม่ยอมติดประกาศเตือนลูกค้าถึงสารก่อมะเร็ง
“ในขณะที่โจทก์ยื่นหลักฐานที่บ่งชี้ว่าการบริโภคกาแฟจะเพิ่มความเสี่ยงที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพทารกในครรภ์ ทารกแรกเกิด เด็ก ไปจนถึงผู้ใหญ่ แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์และระบาดวิทยาของฝ่ายจำเลยกลับให้การเพียงว่าพวกเขาไม่มีความเห็นเกี่ยวกับต้นตอของสารก่อมะเร็ง” ผู้พิพากษาเบอร์ลีระบุ
ก่อนหน้านี้ บิล เมอร์เรย์ นายกสมาคมกาแฟแห่งชาติ ได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว CNN ว่า “จริงๆ แล้วกาแฟเป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ กฎระเบียบข้อบังคับนี้อาจสร้างความสับสนและเข้าใจผิดต่อคอกาแฟทั้งหลาย” ขณะที่ร้านกาแฟต่างออกมายืนยันว่าระดับปริมาณอะคริลาไมด์ที่พบในกาแฟปัจจุบันไม่เป็นอันตรายต่อผู้บริโภค
ทั้งนี้งานวิจัยล่าสุดพบว่ากาแฟอุดมไปด้วยสารต่อต้านอนุมูลอิสระและช่วยลดโอกาสเป็นโรคเบาหวาน ชนิดที่ 2 และโรคหัวใจได้อีกด้วย อย่างไรก็ตาม สถาบันวิจัยโรคมะเร็งระหว่างประเทศ (IARC) ซึ่งเป็นองค์กรหนึ่งภายใต้องค์การอนามัยโลก (WHO) เตือนว่า การดื่มเครื่องดื่มที่ร้อนมากจนเกินไปอาจเพิ่มความเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดโรคมะเร็งหลอดอาหารตามมา
อ้างอิง:
