รัสเซียส่งเครื่องบินออกซ้อมรบต่อต้านเรือดำน้ำในบริเวณนอกชายฝั่งอเมริกาเหนือโดยบินผ่านขั้วโลกเหนือเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 30 ปี หรือนับตั้งแต่สหภาพโซเวียตล่มสลาย เพื่อตอบโต้สหรัฐฯ และอังกฤษที่จัดการซ้อมรบทางทะเลในบริเวณอาร์กติก
เซอร์เกย์ ชอยกู รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของรัสเซีย เปิดเผยกับสำนักข่าว RIA ว่า อากาศยานต่อต้านเรือดำน้ำลำหนึ่งได้ปฏิบัติภารกิจฝึกซ้อมใกล้กับชายฝั่งอเมริกาเหนือ แต่เขาไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดว่าเป็นเครื่องบินรุ่นใดและซ้อมเมื่อใด แต่การเปิดเผยครั้งนี้มีขึ้นในช่วงเวลาที่สหรัฐฯ และอังกฤษกำลังจัดการซ้อมรบทางทะเลในบริเวณวงกลมอาร์กติก (Arctic Circle) นอกจากนี้การซ้อมรบยังมีขึ้นในช่วงที่ความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียกับชาติตะวันตกเกิดความตึงเครียดอันเนื่องมาจากปมลอบสังหารอดีตสายลับรัสเซียในอังกฤษเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา
ชอยกู ระบุว่า การซ้อมรบครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อยกระดับการป้องกันดินแดนทางตอนเหนือของรัสเซียซึ่งปกคลุมไปด้วยธารน้ำแข็ง
นอกจากนี้เขายังเปิดเผยด้วยว่า นับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา รัสเซียได้เสริมอาวุธยุทโธปกรณ์และติดตั้งเครื่องมือทางทหารให้กับกองเรือทะเลเหนือเกือบ 50% แล้ว โดยในปี 2017 กองเรือทะเลเหนือได้รับมอบฮาร์ดแวร์ทันสมัยกว่า 100 รายการ รวมถึงเรือสปีดโบ๊ตประจัญบานจำนวน 5 ลำ เรือลำเลียงยุทธปัจจัย 7 ลำ เครื่องบิน 9 ลำ และระบบเรดาร์ป้องกันภัยทางอากาศ 10 ระบบ
สำหรับการซ้อมรบร่วมระหว่างสหรัฐฯ กับอังกฤษนั้น ดำเนินการโดยห้องปฏิบัติการเรือดำน้ำอาร์กติกของกองทัพเรือสหรัฐฯ ภายใต้รหัส Exercise 18 (ICEX) มีเรือดำน้ำเข้าร่วมหลายลำ ประกอบด้วยเรือ USS Connecticut และ USS Hartford ของกองทัพสหรัฐฯ และเรือ HMS Trenchant ของราชนาวีอังกฤษ โดยอังกฤษระบุว่า การซ้อมรบกับสหรัฐฯ ครั้งนี้จะช่วยให้ลูกเรือได้เรียนรู้และพัฒนาทักษะในการปฏิบัติภารกิจใต้ธารน้ำแข็งในเขตอาร์กติก
อ้างอิง:
