วันนี้ (17 มิถุนายน) ธนลภย์ (สงวนนามสกุล) หรือ หยก เยาวชนวัย 15 ปี นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ผู้เคยถูกดำเนินคดีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ถูกไล่ออกจากโรงเรียน เนื่องจากไม่ได้มามอบตัวตามระยะเวลาที่โรงเรียนกำหนด ทำให้ขาดสถานะความเป็นนักเรียน โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวชี้แจงภายหลังโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ ลงนามโดย จินตนา ศรีสารคาม ผู้อำนวยการโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 2 การพ้นสภาพการเป็นนักเรียนของโรงเรียน เนื่องจากการมอบตัวไม่เป็นไปตามเงื่อนไขตามที่โรงเรียนกำหนด
ธนลภย์โพสต์ข้อความอธิบายเรื่องราวต่อกรณีดังกล่าวผ่าน 5 ข้อ ดังนี้
“1. ไม่ได้เข้าเรียนตามเวลาที่ใจปรารถนา แต่ที่หนูเข้าห้องสายตอนนี้เพราะถูกกีดกันไม่ให้เข้าโรงเรียน มันยากลำบากมาก หนูเข้าคาบตามเวลาที่กำหนดตลอด คาบไหนออดดังแล้วก็รีบวิ่งขึ้นไปทันที
“2. หนูไม่ได้เลือกเรียนเฉพาะวิชาที่ชอบ แต่หนูเห็นว่าวิชาจริยธรรมเป็นวิชาที่ไม่มีประโยชน์ หนูคิดว่าสอนกันมาแบบนี้ก็ไม่มีใครเป็นคนดีขึ้น จากการต้องฟังว่าเราต้องเป็นคนดี
“3. หนูไม่ได้ต่อต้านทุกกิจกรรมของโรงเรียน เหมือนกับในคุกบ้านปรานีเช่นกัน หนูไม่ท่องอาขยานก่อนกินข้าว แต่ถ้าต้องทำความสะอาดตรงกลางหนูก็ทำ เรื่องไหว้ครูต่างๆ หนูเห็นว่าไม่มีประโยชน์กับเยาวชนและนักเรียน
“4. การกระทำนี้ไม่ใช่หนูดื้อแพ่งโง่ๆ แต่หนูคิดว่าสิ่งที่ทำอยู่ในโรงเรียนในประเทศคือเรื่องไม่ปกติ เด็กหลายคนก็คงอยากแต่งตัวไพรเวตเหมือนกันแหละ แต่อาจจะถูกพ่อแม่ไม่ให้ สังคมไม่ให้ โครงสร้างที่กดทับ ถูกโรงเรียนกดทับ แล้วก็ไม่มีความสามารถที่จะเป็นเจ้าของร่างกายตัวเอง ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เริ่มมาตั้งแต่ในชั้นเป็นเด็ก แล้วคุณจะคาดหวังว่าเราจะมีผู้ใหญ่ที่โตไปเป็นผู้พิพากษาหรือข้าราชการ หรือคนมีตำแหน่งแล้วให้เค้ากล้าหาญที่จะหักคำสั่งของเจ้านายในเรื่องที่ไม่ถูกไม่ควรได้ยังไงกันคะ
“5. สังคมไทยก็ต้องเปลี่ยนตอนนี้ ถ้าไม่ใช่ตอนนี้แล้วจะเป็นตอนไหนคะ หนูพูดในฐานะที่ตัวเองเป็นเยาวชน เพราะเปลี่ยนเพื่อให้หนูได้อยู่ต่อ ให้เพื่อนๆ ทุกคนได้ไปต่อพร้อมกัน การที่ผู้ใหญ่ชอบโลกแบบของผู้ใหญ่ก็คือเรื่องหนึ่ง แล้วพวกหนูในฐานะเด็ก ถ้าอยากเปลี่ยนแปลงเราต้องทำยังไง การร้องขอดีๆ หลายสิบปีที่ผ่านมาก็ปรากฏชัดแล้วว่าไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลง
“ในวันนี้สิ่งที่หนูทำไม่ได้เป็นเรื่องฆ่าคนตาย เป็นการแสดงออกทางความคิดผ่านสัญญะ การแต่งตัวแบบนี้ไม่ได้ทำให้หนูเรียนไม่ได้ สิ่งที่ทำให้เรียนไม่ได้คือโรงเรียนและบุคลากร
“เรื่องนี้เป็นบททดสอบของสังคมไทย ทำให้เห็นว่าจะพิสูจน์อะไรอีก ถ้าตกลงแล้วสถานศึกษาหรือทัศนคติของสังคมไทยว่าจะยังไงจะใช้วิธีปัดตกเขี่ยทิ้งกลบฝังคนที่อยากได้ความเปลี่ยนแปลงใช่ไหม”
อย่างไรก็ตาม วานนี้ (16 มิถุนายน) ซึ่งเป็นวันที่ 3 หลังธนลภย์ถูกโรงเรียนให้พ้นสภาพจากการเป็นนักเรียน เธอยังคงแต่งกายด้วยชุดไพรเวตไปโรงเรียนตั้งแต่เช้า โดยทางโรงเรียนไม่เปิดประตูให้ ทั้งยังมีครูและบุคลากรขัดขวางไม่ให้เข้าภายในโรงเรียน ธนลภย์จึงตัดสินใจกระโดดเข้าทางหน้าต่างจนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในโลกออนไลน์ ทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับการกระทำของเธอ
อ้างอิง: