เมื่อช่วงเช้าวานนี้ (14 มิถุนายน) ตามเวลาท้องถิ่น เกิดเหตุเรือผู้อพยพล่มนอกชายฝั่งกรีซ ส่งผลให้มีผู้ที่จมน้ำเสียชีวิตอย่างน้อย 79 คน และยังมีผู้ที่สูญหายอีกกว่า 100 คน ถือเป็นหนึ่งในอุบัติเหตุเรือล่มที่ร้ายแรงที่สุดของยุโรปในรอบไม่กี่ปีมานี้
เจ้าหน้าที่ได้ส่งทีมกู้ภัยเพื่อปฏิบัติการช่วยเหลือและค้นหาผู้รอดชีวิต โดยองค์กรการกุศลที่สนับสนุนการกู้ภัยของยุโรปกล่าวว่า เรือลำดังกล่าวคาดว่าบรรทุกผู้อพยพแน่นขนัดถึง 750 คน ขณะที่ตัวเรือมีความยาวเพียง 20-30 เมตรเท่านั้น ขณะที่หน่วยงานผู้อพยพขององค์การสหประชาชาติ (UN) คาดการณ์ว่ามีผู้ที่อยู่บนเรือราว 400 คน ส่วนทางการกรีซปฏิเสธที่จะคาดเดาเกี่ยวกับจำนวนผู้โดยสารทั้งหมด
ปัจจุบันเจ้าหน้าที่สามารถช่วยเหลือผู้อพยพได้แล้ว 104 คน ด้านรายงานของสื่อระบุว่า เรือลำดังกล่าวเดินทางออกจากลิเบีย ขณะเจ้าหน้าที่รายหนึ่งซึ่งไม่เปิดเผยชื่อกล่าวว่า ผู้อพยพบนเรือส่วนใหญ่มาจากอียิปต์ ซีเรีย และปากีสถาน โดยจุดที่เรือล่มนั้นอยู่ห่างจากเมืองไพลอส (Pylos) ของกรีซราว 80 กิโลเมตรด้วยกัน
ผู้ที่รอดชีวิตทั้งหมดถูกนำตัวไปยังท่าเรือคาลามาตา (Kalamata) ซึ่งพวกเขาได้ห่มผ้าเพื่อบรรเทาความหนาวและเอนตัวนอนบนที่นอนในโกดังเก็บของแห่งหนึ่ง ทั้งนี้ คาดว่ากระทรวงที่ดูแลเกี่ยวกับผู้อพยพจะย้ายคนกลุ่มนี้ไปอาศัยอยู่ในค่ายผู้อพยพนอกกรุงเอเธนส์ต่อไป
อนึ่ง เหตุการณ์ดังกล่าวถือเป็นเหตุเรือล่มที่รุนแรงที่สุดที่เกิดนอกชายฝั่งกรีซในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยในเดือนกุมภาพันธ์มีผู้เสียชีวิต 96 คน หลังเรือไม้ของผู้อพยพชนเข้ากับโขดหินนอกชายฝั่งทางตอนใต้ของอิตาลีขณะที่เจอพายุใหญ่ จนได้รับความเสียหายและจมลงสู่ทะเล
ภาพ: Costas Baltas / Anadolu Agency via Getty Images
อ้างอิง: