นักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายใหญ่แห่ลงทุน SME Green Bond ของ EXIM BANK ดันยอดการจองซื้อสูงกว่าวงเงินที่เสนอขายถึง 2.5 เท่า กรรมการผู้จัดการแบงก์เผย สนับสนุนทางการเงินแก่ธุรกิจ BCG ไปแล้วประมาณ 30% ของพอร์ตสินเชื่อรวม หรือราว 50,000 ล้านบาท และตั้งเป้าหมายจะขยายสินเชื่อ BCG เป็น 1 แสนล้านบาทภายในปี 2570
EXIM BANK ประสบความสำเร็จในการเสนอขายพันธบัตรอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเพื่อ SME (SME Green Bond) ครั้งแรก ภายใต้กรอบการระดมทุนเพื่อความยั่งยืน (Sustainable Finance Framework) อายุ 3 ปี มูลค่ารวม 3,500 ล้านบาท เพื่อนำไปใช้สนับสนุนสินเชื่อโครงการพลังงานสะอาดให้แก่ผู้ประกอบการกลุ่ม SME โดยมีธนาคารออมสินเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายพันธบัตร และธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการการจำหน่ายพันธบัตร และนายทะเบียนพันธบัตร ซึ่งนักลงทุนชั้นนำในประเทศไทยตอบรับเป็นอย่างดีด้วยยอดการจองซื้อสูงกว่าวงเงินที่เสนอขายถึง 2.5 เท่า ทำให้ระดมทุนได้ในอัตราดอกเบี้ยที่ดี ท่ามกลางตลาดการเงินที่มีความผันผวนและภาวะดอกเบี้ยขาขึ้น ตอกย้ำบทบาทการเป็นผู้นำด้านการเงินสีเขียว เติมเต็ม Green Financial Ecosystem ให้ครบวงจรมากขึ้น
ด้าน ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) เปิดเผยว่า EXIM BANK ออก SME Green Bond เป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2566 โดยเสนอขายให้แก่นักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายใหญ่ในรูปแบบพันธบัตรประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน อายุ 3 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2569 อัตราดอกเบี้ยคงที่ 2.71% ต่อปี ชำระดอกเบี้ยทุก 6 เดือนตลอดอายุพันธบัตร มูลค่ารวม 3,500 ล้านบาท พันธบัตร SME Green Bond ที่เสนอขายในครั้งนี้ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ AAA โดยบริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด สะท้อนถึงสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งและมั่นคงของ EXIM BANK ต่อเนื่องจากการเสนอขาย Green Bond ในปี 2565 และในปี 2566 ยังคงได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากนักลงทุนชั้นนำในประเทศไทย ด้วยยอดการจองซื้อสูงกว่าวงเงินที่เสนอขายถึง 2.5 เท่า ทำให้ EXIM BANK สามารถระดมทุนได้เกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ และได้อัตราดอกเบี้ยที่ดีในช่วงที่ตลาดการเงินมีความผันผวนและอัตราดอกเบี้ยอยู่ในช่วงขาขึ้น
กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK ยังกล่าวอีกว่า ที่ผ่านมา EXIM BANK ให้การสนับสนุนทางการเงินแก่ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy: BCG Economy) ไปแล้วประมาณ 30% ของพอร์ตสินเชื่อรวมของธนาคาร หรือประมาณ 50,000 ล้านบาท และตั้งเป้าหมายจะขยายสินเชื่อ BCG ของธนาคารเป็น 1 แสนล้านบาทภายในปี 2570 สนับสนุนการนำพลังงานสะอาดมาใช้พัฒนาอุตสาหกรรม เพื่อรองรับการอุปโภคบริโภคและการค้าการลงทุนระหว่างประเทศ ลดปัญหาสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะภาวะโลกร้อนและการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศที่ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
การออกพันธบัตรในครั้งนี้จึงตอกย้ำความมุ่งมั่นของ EXIM BANK ในการบริหารจัดการการเงินอย่างมีความรับผิดชอบตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ขยายผลความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนให้ดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ตลอดจนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ นำไปสู่ความร่วมมือระดับชุมชน สังคม และนานาประเทศ เพื่อสร้างโลกที่สะอาดและเติบโตอย่างสมดุลในทุกมิติ
ทั้งนี้ EXIM BANK ได้รับรางวัล Best Green Bond ประเภทสถาบันการเงินจากเวทีระดับโลก The Asset Triple A Awards 2022 ที่จัดโดย The Asset นิตยสารการเงินชั้นนำแห่งเอเชีย และรางวัล State Owned Enterprise ESG Bond of the Year จากสมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (The Thai Bond Market Association: ThaiBMA) จากการออกพันธบัตรเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (Green Bond) จำนวน 2 รุ่น มูลค่ารวม 5,000 ล้านบาท ในปี 2565
“ด้วยเป้าหมายสู่การเป็นธนาคารเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน EXIM BANK มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจที่สร้างผลตอบแทนให้แก่ทุกภาคส่วนอย่างยั่งยืน สร้างผลลัพธ์ที่เป็นเลิศให้แก่ลูกค้า ผู้ประกอบการ ตลอดจนสังคมและสิ่งแวดล้อม เพื่อส่งต่ออนาคตที่ดีสู่คนรุ่นหลัง ธนาคารจึงพัฒนารูปแบบการดำเนินธุรกิจและผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เป็นการลงทุนในระยะยาว เพื่อความยั่งยืนของภาคธุรกิจ เสริมสร้างการพัฒนาสังคม และแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจังและต่อเนื่อง โดยใช้ความรู้ ความเชี่ยวชาญ และจุดแข็ง ตลอดจนเครือข่ายพันธมิตร ในการบริหารจัดการการเงินและดำเนินธุรกิจ ที่นำไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนของประเทศไทยและโลกโดยรวม” ดร.รักษ์ กล่าว