เกิดอะไรขึ้น:
บมจ.อมตะ คอร์ปอเรชัน (AMATA) ตั้งเป้าการขายที่ดินในปี 2566 ที่ 2,250 ไร่ โดยใน 1Q66 มีการทำ MOU ร่วมกับ B.GRIMM Power เพื่อร่วมมือศึกษาพัฒนา European Smart City บนพื้นที่ 200 ไร่ในจังหวัดชลบุรี เน้นกลุ่ม Hi-Tech จากทวีปยุโรป โดยใน 1Q66 AMATA มียอดขายที่ดินรวม 310 ไร่ หรือ 14% ของเป้า (อมตะซิตี้ ระยอง จำนวน 251 ไร่ อมตะซิตี้ ชลบุรี จำนวน 30 ไร่ และอมตะ ไทยไชนีส ระยอง จำนวน 29 ไร่)
โดยรวมคาดอุปสงค์ของฐานลูกค้าแต่ละอุตสาหกรรมยังเติบโตได้ YoY และ AMATA อยู่ในช่วงเจรจาประมาณ 2,000-3,000 ไร่ คาดยอดขายที่ดินใน 2Q66 จะเติบโตโดดเด่น และคงเป้าการขายที่ดินในปีนี้เป็นยอดขายที่ในประเทศไทย 1,500 ไร่ เติบโต 131%YoY และยอดขายจากประเทศเวียดนาม 750 ไร่ เติบโตจาก 45 ไร่ในปี 2565 นอกจากนี้ คาดว่าในปีนี้จะเริ่มมียอดขายที่ดินจากนิคมฯ ใหม่ใน สปป.ลาว เข้ามา 200-300 ไร่
กระทบอย่างไร:
ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้น AMATA ปรับลดลง 5.15%MoM อยู่ที่ระดับ 22.10 บาท ขณะที่ SET Index ปรับเพิ่มขึ้น 0.29%MoM สู่ระดับ 1,533.54 จุด
ความเห็นและกลยุทธ์การลงทุน:
AMATA มี Backlog 6,650 ล้านบาท (ยอดจากเวียดนาม 1,800 ล้านาท) คาดประมาณ 2,500 ล้านบาท สามารถบันทึกรายได้ในปีนี้ โดยคาดว่าน้ำหนักการบันทึกรายได้จะอยู่ใน 2H66 ดังนั้นจึงคาดรายได้ของปี 2566 ที่ 7,699 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 18%YoY) และกำไรสุทธิที่ 1,815 ล้านบาท (ลดลง 22.5%YoY) โดยหากลบรายการกำไรจากการขายโรงงานในประเทศเวียดนามในปี 2565 ที่ 1,360 ล้านบาท จะส่งผลให้ Core Profit เติบโต 85%YoY
InnovestX Research ยังคงมุมมองที่เป็นบวกต่อแนวโน้มการลงทุนและ FDI ในประเทศไทย สำหรับพื้นที่ EEC คาดหวังการขยายการลงทุนและนโยบายที่สนับสนุนการลงทุนจากภาครัฐ และคาดว่า AMATA เป็นผู้ประกอบการรายหนึ่งที่มีความพร้อมทั้งที่ดินพร้อมขาย ที่ดินรอการพัฒนา ระบบสาธารณูปโภค สำหรับประเทศเวียดนามเริ่มมีความกังวลต่อภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศ และติดตามประเด็นความเสี่ยงจากระบบสาธารณูปโภค
สำหรับกลยุทธ์การลงทุนยังคงคำแนะนำ ‘ซื้อ’ AMATA ด้วยราคาเป้าหมายปี 2566 ที่ฐาน PER ที่ 17 เท่า ซึ่งเท่ากับ +0.25SD ในรอบ 7 ปีของ AMATA ได้ราคาเป้าหมาย 26.50 บาทต่อหุ้น
ส่วนปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ต้องติดตามคือ ทิศทางเศรษฐกิจโลก ต้นทุนพลังงานที่ผันผวน และติดตามโอกาสและความเสี่ยงของการย้ายฐานการผลิตของบางอุตสาหกรรม การเพิ่มขึ้นของค่าแรงขั้นต่ำ