ฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ได้ส่งจดหมายเชิญผู้บริหารระดับสูงของบริษัทผู้ผลิตและวิจัยชิปและเซมิคอนดักเตอร์จากทั่วโลก ได้แก่ TSMC จากไต้หวัน, Samsung จากเกาหลีใต้, IMEC จากเบลเยียม รวมถึง Intel, IBM, Micron Technology และ Applied Materials ของสหรัฐอเมริกา เข้าพบเป็นกรณีพิเศษ เพื่อหารือถึงโอกาสในการลงทุนและเปิดโรงงานเพิ่มเติมในญี่ปุ่น
ในช่วงทศวรรษ 80 บริษัทในญี่ปุ่นเคยมีสถานะเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมชิปของโลก โดยเคยมีส่วนแบ่งการตลาดโลกสูงถึง 50% ก่อนที่จะเริ่มสูญเสียตำแหน่งดังกล่าวให้กับคู่แข่งจากไต้หวัน เกาหลีใต้ และจีน ที่พัฒนาขีดความสามารถของตัวเองขึ้นมา
ล่าสุดรัฐบาลญี่ปุ่นได้ประกาศเป้าหมายที่จะทำให้ญี่ปุ่นกลับมามีสถานะเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมชิปของโลกอีกครั้ง โดยต้องการเพิ่มยอดขายเซมิคอนดักเตอร์และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องขึ้นเป็น 15 ล้านล้านเยน (1.09 แสนล้านดอลลาร์) หรือเพิ่มขึ้น 3 เท่าจากปัจจุบันภายในปี 2030
ความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์โลกที่สูงขึ้นในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา และบทเรียนจากการแพร่ระบาดของโควิด ที่ทำให้เกิดปัญหาคอขวดในห่วงโซ่อุปทานและการขาดแคลนชิป ทำให้หลายประเทศทั่วโลกตระหนักถึงความสำคัญของการมีห่วงโซ่อุปทานในอุตสาหกรรมนี้ในประเทศของตัวเอง ซึ่งญี่ปุ่นก็เป็นหนึ่งในนั้น
การรวมตัวกันของผู้บริหารระดับสูงจากบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านชิปทั่วโลกไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง ทำให้มีการคาดหมายว่า รัฐบาลญี่ปุ่นได้เตรียมแผนที่จะอุดหนุนเม็ดเงิน เพื่อโน้มน้าวให้บริษัทเหล่านี้เพิ่มการลงทุนในประเทศของตัวเอง
โดยคาดว่า Samsung น่าจะมีการหารือถึงแผนการเปิดโรงผลิตเซมิคอนดักเตอร์ขั้นสูงของตัวเองในเมืองโยโกฮามา ขณะที่ IMEC ก็น่าจะประกาศเปิดศูนย์วิจัยชิปในญี่ปุ่นเช่นกัน
สำนักข่าว Nikkei รายงานว่า การพบปะที่จะเกิดขึ้นนี้จะมีรัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจ การค้าและอุตสาหกรรม รวมถึงเจ้าหน้าที่ระดับสูงของญี่ปุ่นหลายรายเข้าร่วมด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- TSMC เล็งสร้างโรงงานผลิตชิปแห่งใหม่มูลค่าหลายหมื่นล้านดอลลาร์ในสหรัฐฯ
- TSMC ระงับการส่งซิลิคอนขั้นสูงให้ผู้ผลิตชิปในจีน เพื่อหลีกเลี่ยงการฝ่าฝืนข้อบังคับของสหรัฐฯ
- จีนอวดสายการผลิต ‘Photonic Chip’ เป็นครั้งแรก เตรียมเดินเครื่องผลิตภายในปี 2023
อ้างอิง: