คณะลูกขุนตัดสิน ‘โดนัลด์ ทรัมป์’ ล่วงละเมิดทางเพศนักเขียนหญิงที่ห้างดังในนิวยอร์ก เมื่อหลายสิบปีก่อน

คณะลูกขุนสหรัฐอเมริกาตัดสิน โดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ว่าได้ล่วงละเมิดทางเพศ อี. จีน แคร์รอล นักเขียนหญิงที่ห้างชื่อดังในรัฐนิวยอร์ก เมื่อหลายสิบปีก่อน ช่วงราวทศวรรษที่ 1990 โดยทรัมป์กำลังอยู่ระหว่างการหาเสียงเลือกตั้ง เพื่อคว้าสิทธิในการเป็นผู้แทนพรรครีพับลิกันลงชิงชัยเก้าอี้ผู้นำสหรัฐฯ อีกสมัยในการเลือกตั้งครั้งใหญ่ปี 2024

แม้คณะลูกขุนจะมีหลักฐานเพียงพอที่จะเอาผิดทรัมป์ให้รับผิดชอบต่อเหตุทำร้ายร่างกายแคร์รอล แต่คณะลูกขุนก็ไม่พบหลักฐานที่บ่งชี้ว่าทรัมป์ข่มขืนแคร์รอลในห้องลองเสื้อของเบิร์กดอร์ฟ กู้ดแมนในนิวยอร์กแต่อย่างใด โดยคณะลูกขุนมองว่าทรัมป์มีความผิด โดยเฉพาะที่ทำให้แคร์รอลเสื่อมเสียชื่อเสียงผ่านช่องทางสื่อโซเชียลของเขาเมื่อเดือนตุลาคมปี 2022 พร้อมทั้งยังสั่งให้ทรัมป์จ่ายเงินค่าเสียหายให้แก่แคร์รอลเป็นเงินมูลค่า 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 170 ล้านบาท) ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ทรัมป์ต้องรับผิดชอบต่อความผิดในคดีล่วงละเมิดทางเพศ

คำตัดสินดังกล่าวของลูกขุนทั้ง 9 คนเกิดขึ้นหลังจากปรึกษาหารือกันไม่น้อยกว่า 3 ชั่วโมง เมื่อวานนี้ (9 พฤษภาคม) ตามเวลาท้องถิ่น ขณะที่แคร์รอลระบุว่า “วันนี้ในที่สุดโลกก็ได้รู้ความจริง นี่ไม่ใช่ชัยชนะของฉันเพียงแค่คนเดียว แต่เป็นชัยชนะสำหรับผู้หญิงทุกคนที่เคยทนทุกข์ทรมาน เพราะเสียงของเธอไม่เคยถูกเชื่อมั่นหรือรับฟัง”

ทีมทนายของทรัมป์มีแผนจะยื่นอุทธรณ์ต่อศาลสหรัฐฯ ซึ่งการยื่นอุทธรณ์นี้จะทำให้ทรัมป์ยังไม่ต้องจ่ายเงินค่าเสียหายให้กับแคร์รอล โดยนับตั้งแต่เริ่มต้นกระบวนการพิจารณาคดี ทรัมป์ไม่เคยเดินทางไปเข้าร่วมกระบวนการยุติธรรมเกี่ยวกับคดีนี้แม้แต่ครั้งเดียว พร้อมทั้งประณามว่าคำตัดสินดังกล่าวถือเป็นความอัปยศ ฟุตเทจต่างๆ ที่ใช้ในการพิจารณาคดีเป็นสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นมา และตัวเขาเองยังไม่รู้เลยว่าแคร์รอลเป็นใครและเคยเจอเธอที่ไหน

หลังฟังคำตัดสินของคณะลูกขุนแล้วเสร็จ โจ ทาโกปินา ทนายความของทรัมป์ จับมือแคร์รอลพร้อมแสดงความยินดีกับเธอและอวยพรให้เธอโชคดีในการต่อสู้คดีในครั้งนี้ โดยทาโกปินาตั้งข้อสงสัยว่าทำไมแคร์รอลถึงไม่สามารถจำวันและเวลาที่เกิดเหตุได้อย่างแม่นยำทั้งๆ ที่เธอเป็นนักเขียนนิยาย และทราบดีว่าข้อมูลนี้อาจจะยิ่งเป็นข้อมูลที่ทำให้ทรัมป์ดิ้นหลุดได้ยากมากยิ่งขึ้นและลดโอกาสที่ทรัมป์จะให้การแก้ตัว

นับเป็นอีกหนึ่งคดีฉาวที่อาจส่งผลต่อคะแนนนิยมของทรัมป์ในการเลือกตั้งผู้นำคนใหม่ของสหรัฐฯ ในช่วงปลายปี 2024 ไม่มากก็น้อย

ภาพ: Kena Betancur / Andrew Kelly / Pool / AFP

อ้างอิง: