Tesla กำลังจะพัฒนา DriveGPT เพื่อพลิกกลับมาทำกำไร หลังตลาดรถยนต์ไร้คนขับและเทคโนโลยี AI จีนมาแรงกว่าที่คาด โดยมีการคาดการณ์ว่าอีก 3 ปีข้างหน้าสัดส่วนตลาดจะโต 70% และภายในสิ้นทศวรรษนี้ ตลาดรถยนต์ไร้คนขับจะมีมูลค่าสูงถึง 1 แสนล้านดอลลาร์ นับเป็นการเดิมพันครั้งใหม่ของแผนรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ของ Elon Musk ขณะที่ผู้เล่นฝั่งจีนในตลาดมีเพียง Haomo.AI สตาร์ทอัพเครือ GWM เท่านั้น ที่นำเอา DriveGPT มาพัฒนาโดยได้แรงบันดาลใจจาก ChatGPT
หลังจาก Tesla บริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ ออกมาเปิดเผยว่า ภายในปีนี้บริษัทมีแผนจะเปิดตัวเทคโนโลยีขับเคลื่อนด้วยตัวเองอย่างเต็มรูปแบบ (Full Self-Drive Technology-FSD) โดย Elon Musk ย้ำว่าธุรกิจนี้จะกลับมาสร้างผลกำไร และช่วยชดเชยแรงกดดันจากการปรับลดราคารถยนต์ลงอย่างรุนแรง ล่าสุด สื่อท้องถิ่นจีนรายงานโดยตั้งข้อสังเกตว่า ขณะนี้ Tesla กำลังพัฒนาเทคโนโลยี DriveGPT
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- เลขาและล่ามอาจตกงาน! เมื่อ Microsoft เปิดตัว Teams Premium ที่ผสานพลัง ChatGPT จนสามารถสร้าง ‘บันทึกการประชุมอัตโนมัติ’ แถมยัง ‘แปลสด’ ได้มากถึง 40 ภาษา
- สงคราม ‘AI’ แชตบอตเดือด Baidu เปิดตัว ‘ERNIE Bot’ ท้าชน ‘ChatGPT’ ของ OpenAI และ ‘Bard’ ของ Google
- ยังไม่ช้า (เกินไป) ใช่ไหม? Google เปิดตัว ‘Bard’ แชตบอตปัญญาประดิษฐ์ที่เกิดขึ้นมาเพื่อสู้กับ ChatGPT โดยเฉพาะ
เพราะเป็นจังหวะและห้วงเวลาเดียวกับที่รัฐบาลจีนปลดล็อกกฎระเบียบ และยิ่งไปกว่านั้นอุตสาหกรรมรถยนต์ไร้คนขับในจีนถือว่ากำลังมาแรงเกินคาด
Bloomberg รายงานอ้างอิงจากสื่อท้องถิ่นจีน ระบุว่า Tesla เตรียมพร้อมทดสอบเทคโนโลยีไร้คนขับเต็มรูปแบบในจีน ซึ่งต้องผ่านการพิจารณาจากประวัติบริษัท เกี่ยวกับการเปิดตัวเทคโนโลยีขับเคลื่อนด้วยตัวเองอย่างเต็มรูปแบบ หรือ FSD ในสหรัฐอเมริกา ที่อาจเป็นทั้งโอกาสและความเสี่ยงของ Tesla เพราะหากย้อนไปในเดือนพฤษภาคม 2021 Tesla ประกาศว่ากำลังปรับแผนและเรดาร์รถยนต์ใหม่ ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้ต้องทยอยปิดการใช้งานเพราะรถชนกันมากขึ้น
อีกทั้ง The Washington Post รายงานว่า ในเดือนกุมภาพันธ์ Tesla ยุติการเปิดตัว FSD ชั่วคราวเพื่อไปทำตลาดที่จีน
แม้ว่า Tesla จะได้รับอนุญาตให้ทดสอบ FSD ในประเทศจีน แต่บรรดาผู้เล่นในประเทศก็แข่งขันสูง จากมาตรการสนับสนุนจากพิมพ์เขียวของรัฐบาลปักกิ่ง ซึ่งจะเห็นว่ามีบริษัทต่างๆ เช่น Pony.ai Inc. และ Baidu Inc. ส่งแท็กซี่หุ่นยนต์ทำตลาดไปบ้างแล้ว
และยังมีอีกหลายบริษัทซอฟต์แวร์รถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI กำลังพัฒนาเทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติที่มีความละเอียดขั้นสูง มีห้องขับอัจฉริยะที่เรียกว่า V2X หรือเครือข่ายระหว่างยานพาหนะกับทุกสิ่งที่อาศัยเซ็นเซอร์ กล้อง และอินเทอร์เน็ตเพื่ออำนวยความสะดวกให้คนขับรับรู้ข้อมูลสภาพถนน
มากไปกว่านั้น เทคโนโลยี AI ในจีนกำลังเป็นแรงหนุนที่ทำให้อุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แซงหน้าคู่แข่ง โดยมูลค่าตลาดยานยนต์อัจฉริยะคาดว่าจะเติบโตเกือบ 1 แสนล้านดอลลาร์ภายในสิ้นทศวรรษนี้ และในปี 2022 รถยนต์เกือบ 30% มาพร้อมกับฟีเจอร์ช่วยเหลือการขับขี่ในระดับสูง และในอีก 3 ปีข้างหน้าคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 70%
ข้อมูลเหล่านี้ทำให้ตีความได้ว่า Telsa อาจจะกำลังเข้าร่วมรับข้อเสนอเพื่อนำเอาเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ล้ำหน้าคู่แข่ง เพื่อพัฒนาให้โมเดลนี้กลับมาทำกำไรเช่นเดียวกับบริษัทอื่น
อุตสาหกรรมรถยนต์ไร้คนขับของจีนเติบโตไกลกว่าที่คาดการณ์
สำหรับอุตสาหกรรมรถยนต์ไร้คนขับของจีนเติบโตไปไกลกว่าที่คาดการณ์ ซึ่งจะเห็นว่าขณะนี้มีทั้ง ByteDance Ltd. เจ้าของ TikTok ร่วมกับ Haomo.AI Zhixing Technology Co. เป็นบริษัทสตาร์ทอัพของ Great Wall Motor ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของจีน ก่อตั้งศูนย์คอมพิวเตอร์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ สำหรับวางโครงสร้างพื้นฐานระบบ
อีกทั้งล่าสุด Haomo.AI เปิดตัว DriveGPT ซึ่งเป็นโมเดลใหม่ที่เพิ่งแจ้งเกิดที่เหมือนกับ ChatGPT โดยเพิ่มการเรียนรู้เสริมพร้อมความคิดเห็นจากมนุษย์ ที่ทำงานร่วมกับข้อมูลเรียลไทม์และการตัดสินใจของผู้ขับขี่เพื่อปรับปรุงระบบให้เกิดความปลอดภัย และช่วยให้ยานพาหนะทำงานในลักษณะที่เหมือนมนุษย์มากขึ้น โดยปีที่แล้วร่างกฎหมายต่างๆ ได้รับการเผยแพร่เพื่อส่งเสริมให้เกิดการลงทุนที่รวดเร็วยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม ยังมีบริษัทอีกหลายแห่งกำลังแข่งขันด้วยการพัฒนาเวอร์ชันที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น และพัฒนาให้สอดคล้องกับเงื่อนไข กฎระเบียบรัฐบาล อย่างเช่น เซี่ยงไฮ้มีการออกกฎหมายเข้มงวดซึ่งมีผลบังคับใช้ไปแล้วเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ขณะที่กรุงปักกิ่ง มีรายชื่อบริษัทที่มีคุณสมบัติเหมาะสมในการทดสอบรถยนต์ไร้คนขับบนท้องถนน พร้อมกับใบอนุญาตสำหรับหุ่นยนต์แท็กซี่ไปบ้างแล้ว
ทั้งนี้ ผู้ผลิตรถยนต์หลายรายกำลังร่วมมือกับบริษัท AI ภายใต้มาตรการด้านความปลอดภัย แต่อาจต้องเผชิญกับข้อแลกเปลี่ยนด้านนวัตกรรมและการกำกับดูแล ตัวอย่างเช่นบริษัทรถยนต์ในสหรัฐอเมริกา ต้องสามารถรับรองด้วยตนเองได้ว่าปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ได้หรือไม่
ดังนั้น สำหรับ Tesla และผู้ผลิตรถยนต์รายอื่น จะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงสู่ระบบอิสระที่มากขึ้น ซึ่งการติดตามเส้นทาง AI ของจีนเป็นเรื่องสำคัญที่ Tesla ต้องตามให้ทัน เพราะบริษัทต่างๆ ในยุโรปต่างก็พึ่งพาบริษัทเทคโนโลยีจากจีน เช่น Thunder Software Technology Co. ป้อนซอฟต์แวร์สำหรับรถยนต์อัจฉริยะ ตามนโยบายจีนที่มุ่งพัฒนา EV แบตเตอรี่เพื่อกำหนดเป็นมาตรฐานสากล
รู้จัก DriveGPT ที่ได้แรงบันดาลใจจาก ChatGPT
China Daily รายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ Gu Weihao CEO ของ Haomo.AI เปิดตัวโมเดล DriveGPT โดย Haomo.AI เป็นสตาร์ทอัพสัญชาติจีนรายแรก และถือเป็นครั้งแรกที่พัฒนาเพื่อการขับขี่อัตโนมัติระดับโลก โดยได้รับแรงบันดาลใจจาก ChatGPT ที่กำลังเป็นที่นิยม จึงนำเทคโนโลยี RLHF ซึ่งย่อมาจาก Reinforced Learning with Human Feedback เข้าสู่เครื่องกำเนิดสัญญาณที่ฝึกไว้ล่วงหน้า
โดย DriveGPT ถือเป็นการทรานส์ฟอร์มเทคโนโลยี ภาคการขับขี่อัตโนมัติรายแรกของโลกที่ใช้ Input เป็นลำดับข้อความหลังจากการรับรู้ และ Output คือลำดับข้อความของฉากอัตโนมัติ ฉากขับเคลื่อนอัตโนมัติที่ได้รับโทเคนเพื่อสร้าง ‘ภาษาการขับขี่’
Gu Weihao กล่าวเสริมว่า DriveGPT สามารถวิ่งได้อย่างปลอดภัยมากขึ้นและทำงานเหมือนมนุษย์
เขาเสริมว่า Wey Mocca DHT-PHEV จะเป็นรถยนต์คันแรกที่ขับเคลื่อนโดย DriveGPT และมีการผลิตเป็นจำนวนมากในไม่ช้า
นอกจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีแล้ว Haomo.AI ประกาศในงานว่า บริษัทได้กลายเป็นซัพพลายเออร์ของผู้ผลิตรถยนต์ 3 ราย ซึ่งนับเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญในเชิงพาณิชย์ ที่ก่อนหน้านี้ได้จัดหาผลิตภัณฑ์ช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูงให้กับ GWM ไปแล้ว
นอกจากนี้ รถยนต์บรรทุก HPilot ซึ่งเป็นหนึ่งในสินค้าของเขาจะจำหน่ายในตะวันออกกลาง แอฟริกาใต้ และออสเตรเลีย หลังจากเข้าสู่ตลาดยุโรปด้วยความช่วยเหลือจาก Amazon และอิสราเอลเมื่อต้นปีที่ผ่านมา และมีแผนจะผลิต HPilot เวอร์ชันเม็กซิกันและรัสเซียอีกเป็นจำนวนมาก
อ้างอิง:
- https://www.bloomberg.com/opinion/articles/2023-04-24/autonomous-vehicles-tesla-needs-to-catch-up-with-china-s-drivegpt?leadSource=uverify%20wall
- https://www.chinadaily.com.cn/a/202304/12/WS64360d43a31057c47ebb9a8e.html
- https://www.businesswire.com/news/home/20230411006024/en/Haomo-unveils-DriveGPT-speeds-up-commercialization-and-global-expansion-after-landing-in-Europe-and-Israel