วันนี้ (18 เมษายน) พล.ร.อ. ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ กล่าวถึงแนวทางของกองทัพเรือในการสนับสนุนการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เป็นการทั่วไป ปี 2566 ว่า กองทัพเรือมีแนวทางที่ชัดเจนที่เขียนไว้ในเรื่องการสนับสนุนการเลือกตั้ง ทั้งนี้ เป็นไปตามข้อบังคับกระทรวงกลาโหม ปี 2549 และมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ปี 2562 ที่เกี่ยวกับการสนับสนุนสถานที่หาเสียงและเลือกตั้ง การจัดสถานที่ติดตั้งป้ายหาเสียง
ในส่วนการขอเข้ามาหาเสียงในหน่วยทหารสามารถทำได้ เพราะเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วน ทุกพรรคการเมือง ซึ่งกองทัพเรือได้ให้ความสำคัญกับการเลือกตั้ง ส.ส. ในครั้งนี้เป็นอย่างมาก โดยได้มีการออกแนวทางเพื่อให้การสนับสนุน ตลอดจนสร้างการรับรู้ให้แก่กำลังพล ทั้งในเรื่องของสาระสำคัญของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง รวมถึงหน้าที่และการปฏิบัติตนในฐานะประชาชนและข้าราชการ
สำหรับในส่วนของแนวทางการพิจารณาสำหรับการขอเข้าหาเสียงของพรรคการเมืองต่างๆ ในหน่วยของกองทัพเรือนั้น ได้มีการสั่งการให้หน่วยต่างๆ ให้การสนับสนุนการขอเข้าหาเสียงของพรรคการเมืองที่มีการขออนุญาตเข้ามาโดยเท่าเทียมกันแบบรวมการครั้งเดียว พร้อมทั้งเชิญคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประจำพื้นที่เข้าร่วมสังเกตการณ์ในการเข้ามาหาเสียงของพรรคการเมืองด้วยทุกครั้ง
พล.ร.อ. ปกครอง กล่าวต่อไปว่า การสนับสนุนพื้นที่ของหน่วยในการปราศรัยหาเสียง การปิดประกาศของผู้สมัคร จะคำนึงถึงความโปร่งใส เท่าเทียม และเป็นกลาง โดยกำหนดพื้นที่ส่วนกลางสำหรับดำเนินกิจกรรม อาทิ พื้นที่ตลาดหรือภัณฑุปกรณ์ภายในหน่วย หรือสถานที่ภายในหน่วยที่มีความเหมาะสม โดยให้เป็นไปตามประกาศของสำนักงาน กกต. ทั้งนี้ ผู้สมัครต้องทำเรื่องขออนุญาตก่อน จากนั้นให้หน่วยแจ้งไปยังสำนักงาน กกต. ประจำจังหวัด เพื่อประกาศให้ผู้สมัครแต่ละพรรคและผู้สมัครอิสระเข้ามาหาเสียงในวันเวลาเดียวกัน
ทั้งนี้ พล.ร.อ. เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้เน้นย้ำกำลังพลให้วางตัวเป็นกลางทางการเมือง พร้อมทั้งเปิดกว้างให้ทุกคนมีสิทธิในการตัดสินใจของตัวเอง และหากพบว่ากำลังพลนายใดเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับกระบวนการเลือกตั้ง หรือการดำเนินการในส่วนบุคคลที่ทำให้การเลือกตั้งไม่เป็นไปตามความยุติธรรม ก็มีอัตราโทษตามกฎหมายอยู่แล้วถ้าพบว่ามีความผิดจริง นอกเหนือจากนี้หากพบว่าผิดจากระเบียบของกองทัพก็จะมีโทษทางวินัยของกองทัพตามไปด้วย
พล.ร.อ. ปกครอง กล่าวอีกว่า กองทัพเรือดำรงความเป็นกลางการเมือง ยึดหลักสามัคคี ไม่ขัดแย้ง เป็นทหารอาชีพ พร้อมทำงานและสนับสนุนรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน เพื่อดำรงไว้ซึ่งการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข