วันนี้ (7 เมษายน) คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย สุพันธุ์ มงคลสุธี รองหัวหน้าพรรค และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคไทยสร้างไทย เข้าเยี่ยมคารวะ พณฯ เพชร พรมภิทักษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกสิกรรมและป่าไม้ สปป.ลาว ที่กระทรวงกสิกรรมและป่าไม้ นครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว และได้หารือถึงปัญหาหมอกควัน ฝุ่น PM2.5 ที่กำลังส่งผลกระทบอย่างหนักกับประชาชนใน สปป.ลาว และไทย
คุณหญิงสุดารัตน์เปิดเผยว่า ได้รับเกียรติจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกสิกรรมและป่าไม้ สปป.ลาว ให้เวลามาพูดคุย เพราะทั้งไทยและ สปป.ลาว ต่างเจอปัญหาหมอกควันและฝุ่น PM2.5 จากการเผาพืชไร่ เผาป่า ทำให้เกิดหมอกควันพิษ ข้ามไปมา 2 ประเทศ ส่งผลให้คุณภาพชีวิตของประชาชนย่ำแย่ ซึ่งทาง สปป.ลาว เห็นปัญหาตรงกันว่าเป็นเรื่องที่ต้องแก้ไขร่วมกัน
“ทางพรรคไทยสร้างไทยเราก็เสนอว่า ถ้าเราได้ทำงานเป็นรัฐบาล ต้องมาตกลงในลักษณะการสร้างความร่วมมือ เป็นคณะทำงานร่วม JC ลดการเผาป่า ซึ่งเรามองใน 2-3 เรื่องที่ตรงกัน เช่น สนับสนุนเกษตรกรให้ปรับเปลี่ยนมาใช้เครื่องมือไถกลบแทนการเผา ซึ่งจะสร้างรายได้จากการใช้เศษการเพาะปลูกมาขายเป็นไบโอพลาสติก ส่วนพื้นที่เชิงเขาลาดชัน ต้องแก้ไขเรื่องสิทธิที่ดิน ต้องทำทันที โดยจะเปลี่ยนการเพาะปลูกพืชไร่บนแนวเชิงเขาให้ปลูกพืชยืนต้น ซึ่งจะเสนอให้รายได้กับเกษตรกร 2,000 บาทต่อปีต่อไร่ ส่งเสริมให้เปลี่ยนพืชไร่เป็นไม้ยืนต้น ทางรัฐมนตรีกสิกรรมฯ ก็เห็นด้วยที่ต้องแก้ปัญหาร่วมกัน เพราะการปลูกไม้ยืนต้นทำให้ได้คาร์บอนเครดิตด้วย” คุณหญิงสุดารัตน์กล่าว
ส่วนหนึ่งในการพูดคุย รัฐมนตรีกสิกรรมและป่าไม้ของ สปป.ลาว ยอมรับว่า ปีนี้ปัญหาหมอกควันและฝุ่น PM2.5 ของ สปป.ลาว รุนแรงมากกว่าทุกปี ปัญหาเกิดจากหลายสาเหตุ ทั้งการบุกรุกพื้นที่กสิกรรม การทำมาหากินในเขตป่า และการเผาป่า ซึ่งทางรัฐบาลได้ระดมกำลังในการดับไฟป่าอย่างเร่งด่วน และในระยะยาวจะต้องปกป้องรักษาป่าไม้โดยให้ประชาชนมีส่วนร่วม
ขณะที่คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวย้ำว่า ในระยะสั้นทั้งสองประเทศต้องช่วยกันดับไฟป่า ซึ่งในไทยจะต้องระดมกำลังอาสาสมัครไปดับไฟป่าทุกปี จะต้องช่วยสนับสนุนอุปกรณ์เครื่องมือและเจ้าหน้าที่ดับไฟป่า ไม่ให้ประชาชนต่อสู้อย่างโดดเดี่ยว โดยทั้งไทยและ สปป.ลาว สามารถสร้างความร่วมมือสนับสนุนเรื่องนี้ต่อกันได้
“การแก้ปัญหานี้ต้องมีคณะกรรมการร่วม และต้องทำเป็นวาระแห่งชาติ ให้เป็นวาระแห่งภูมิภาค และวาระระดับโลก ถ้าพรรคไทยสร้างไทยได้เป็นรัฐบาลจะแก้ปัญหาหมอกควันข้ามพรมแดนให้แล้วเสร็จภายใน 3 ปี ด้วยการเข้าไปช่วยเหลือเกษตรกรให้มีช่องทางในการเพิ่มรายได้ด้วยการปลูกไม้ที่สามารถนำไปขายสร้างรายได้ ลดการเผาป่าทำไร่ และที่สำคัญคือการสนับสนุนกู้ในการจัดการเครื่องจักรเพื่อทำเกษตรกรรมโดยรัฐเข้ามาช่วยเหลือ” คุณหญิงสุดารัตน์กล่าว
คุณหญิงสุดารัตน์ยังเปิดเผยด้วยว่า รัฐต้องมีมาตรการในการสนับสนุนให้ประชาชนมีเครื่องมือที่ลดการเผาป่า ซึ่งอาจช่วยให้เงินกู้อัตราดอกเบี้ยต่ำเป็นเงินกู้ระยะยาวให้ประชาชน และต้องประสานความร่วมมือไปยังไทย สปป.ลาว และเมียนมา และยกระดับไปสู่เวทีอาเซียน รวมถึงระดับโลกในการแก้ไขปัญหาภาวะโลกร้อนไปพร้อมกันด้วย