วันนี้ (5 เมษายน) พรรคเพื่อไทยเปิดตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีในบัญชีของพรรค 3 คนอย่างเป็นทางการ ประกอบด้วย แพทองธาร ชินวัตร, เศรษฐา ทวีสิน และ ชัยเกษม นิติสิริ
ก่อนเริ่มเปิดเวทีปราศรัยมีการเดินพรมแดงก่อนเข้างาน โดยมีผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ เช่น สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ, สุชาติ ตันเจริญ, จาตุรนต์ ฉายแสง และผู้สมัคร ส.ส. แบบแบ่งเขต
อย่างไรก็ตามแพทองธารให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า พรรคยังไม่ได้เรียงลำดับแคนดิเดตนายกฯ คงต้องคุยกันหลังวันที่ 14 พฤษภาคมนี้
สำหรับกิจกรรมบนเวทีมีการเปิดตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีทั้ง 3 คน รวมถึงผู้สมัคร ส.ส. ระบบบัญชีรายชื่อครบ 100 คนบนเวทีอย่างเป็นทางการ โดยมีประชาชนและคนดังมาร่วมงาน เช่น มดดำ คชาภา, แม่หญิงลี พระมหาเทวีเจ้า, มาดามแพม, แสนปิติ สิทธิพันธุ์, สิตางศุ์ บัวทอง ซึ่งคนดังเหล่านี้บางคนเคยปรากฏตัวในการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ระบบเขตเลือกตั้งกรุงเทพมหานคร ในวันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา
ขณะที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ย้ำว่าพรรคเพื่อไทยนั้นไม่มีดีลลับกับพรรคพลังประชารัฐและ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ด้าน ร.ต.อ. เฉลิม อยู่บำรุง หนึ่งในแกนนำของพรรคเพื่อไทย ขึ้นเวทีปราศรัยเป็นครั้งแรกนับแต่มีการประกาศวันเลือกตั้ง และได้ระบุถึงความพร้อมในการแก้ไขปัญหายาเสพติด
สำหรับการปราศรัยของแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีทั้ง 3 คนของพรรคเพื่อไทย เริ่มต้นที่ ชัยเกษม นิติสิริ โดยกล่าวถึงจุดยืนของตน 2 อย่างคือ นิติรัฐและนิติธรรม พร้อมยกข้อเสนอการแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยคุ้มครองสิทธิเสรีภาพ เพิ่มมาตราความว่าผู้ที่รัฐประหารมีความผิดฐานเป็นกบฏ อีกทั้งไม่กำหนดอายุความลงในรัฐธรรมนูญ และการเลือกตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) เพื่อร่างรัฐธรรมนูญ
ลำดับการปราศรัยคนที่ 2 เป็นของ แพทองธาร ชินวัตร ซึ่งกล่าวถึงแนวนโยบายและความพร้อมในการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการบริหารประเทศ และนโยบายด้านเศรษฐกิจคือ การที่รัฐบาลพรรคเพื่อไทยจะสำรวจรายได้ทุกครัวเรือนให้อยู่ในมาตรฐานรายได้ไม่ต่ำกว่า 20,000 บาทต่อเดือน หากครอบครัวไหนมีน้อยกว่า 20,000 บาทต่อเดือน จะเติมให้ครบ 20,000 บาททันที เพื่อลดช่องว่างระหว่างรายได้ ไม่ต้องมีใครต้องทนทุกข์อยู่กับความยากจนอีก
แพทองธารยังกล่าวถึงนโยบายการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำให้เป็น 600 บาทต่อวัน และเงินเดือนสำหรับวุฒิปริญญาตรีและข้าราชการเริ่มต้น 25,000 บาท ที่จะเป็นผลจากนโยบายการกระตุ้น GDP ให้เติบโตเฉลี่ยปีละ 5% และค่าแรงขั้นต่ำจะเริ่มทยอยปรับขึ้นเป็น 400 บาทต่อวันภายในต้นปี 2567
ปิดท้ายด้วย เศรษฐา ทวีสิน ซึ่งกล่าวถึงสิ่งที่ติดค้างอยู่ในใจตนเองมาตลอดเวลากว่า 50 ปี คือความเหลื่อมล้ำทางสังคม โดยเรื่องนี้เป็นสิ่งที่ทำให้ตนตัดสินใจเข้ามาสู่เส้นทางการเมืองเพื่อทำให้สังคมไทยเท่าเทียมและมีชีวิตที่ดีกว่า พร้อมเปิดเผยถึงรายละเอียดโครงการ Digital Wallet หรือกระเป๋าเงินดิจิทัล ซึ่งหากพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลจะเติมเงินเข้าไปในกระเป๋าดิจิทัลให้ประชาชนจำนวน 10,000 บาท สำหรับประชาชนชาวไทยอายุ 16 ปีขึ้นไปใช้บริโภคในชีวิตประจำวันภายใน 6 เดือน โดยสามารถใช้จ่ายกับร้านค้าที่มีรัศมี 4 กิโลเมตรจากที่อยู่อาศัย
“ศัตรูของคนคือความยากจน ความไม่เท่าเทียม ความลำบากของประชาชน ชัยชนะต่อสิ่งเหล่านั้นคือเป้าหมายที่แท้จริงของพวกเราทุกคน และผมมีความตั้งใจจริงที่จะเข้ามาทำงานเพื่อพี่น้องประชาชนได้มีชีวิตที่ดีขึ้น จึงต้องขอให้ประชาชนคนไทยทุกคนช่วยเป็นกำลัง เพื่อส่งเพื่อไทยไปจัดตั้งรัฐบาล ได้มีนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 มาจากพรรคเพื่อไทย โดยการเลือกพรรคเพื่อไทยให้แลนด์สไลด์ ทั้งคน ทั้งพรรค เพื่อส่งต่ออนาคตที่มีแสงสว่าง มีความหวังให้ลูกหลานของเรา”
