วานนี้ (1 เมษายน) ที่สวนสาธารณะใต้สะพานพระราม 8 ระหว่างที่พรรคพลังประชารัฐเปิดปราศรัยย่อยโซนธนบุรีเหนือ ตะวัน-ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ และ แบม-อรวรรณ ภู่พงษ์ นักกิจกรรมอิสระ พร้อมสมาชิกประมาณ 10 คน เดินทางมาทำกิจกรรมเรียกร้องสิทธิประกันตัว โดยมีวัตถุประสงค์ขอพบ ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ บริเวณพื้นที่ทางเข้าเวทีปราศรัย
เว็บไซต์ประชาไทระบุว่า บรรยากาศขณะที่กลุ่มทานตะวันและอรวรรณพยายามจะเข้าพื้นที่ปราศรัย โดยมีการ์ดคอยควบคุมที่บริเวณประตูเข้าออก ซึ่งมีแผงเหล็กกั้นอยู่ ทำให้ทางการ์ดปิดกั้นเอาไว้ กระทั่งเกิดความชุลมุนและมีการชกต่อยระหว่างการ์ด กลุ่มมวลชนที่มาฟังปราศรัย และกลุ่มนักกิจกรรมฯ จนเกิดเหตุความวุ่นวายนานกว่า 20 นาที
นอกจากนี้ประชาไทยังเผยแพร่คลิปเหตุปะทะกันชุลมุนระหว่างนักกิจกรรม การ์ดรักษาความปลอดภัย และผู้มาฟังปราศรัย โดยนักกิจกรรมคนหนึ่งถูกกลุ่มวัยรุ่นรุมทำร้าย ซึ่งกลุ่มผู้กระทำกล่าวระบุว่าตนถูกทำร้ายก่อน และนักกิจกรรมคนดังกล่าวถูกส่งตัวไปโรงพยาบาลศิริราชหลังเกิดเหตุ ก่อนจะเข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจนครบาลบางยี่ขันในเวลาต่อมา
ขณะที่ประชาชนที่มาฟังปราศรัย มีการตะโกนไล่ และสาดน้ำใส่กลุ่มมวลชน รวมถึงตามไปทำร้ายร่างกายนักกิจกรรมรายหนึ่งบริเวณทางออกของสวนด้วย ทำให้พิธีกรบนเวทีประกาศขอให้ทุกคนอยู่ในความสงบ และพูดคุยกันดีๆ อย่าก่อเหตุรุนแรง
ทานตะวันให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนหลังเกิดเหตุว่า วันนี้ที่ตนมาทำกิจกรรมเพราะต้องการให้พรรคพลังประชารัฐได้รับรู้ว่ามีเยาวชนอายุ 15 ปีถูกคุมขังด้วยคดีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ซึ่งทานตะวันระบุว่าก่อนหน้านี้ ชัยวุฒิระบุว่าประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ไม่ได้เป็นปัญหา แต่ตอนนี้มีเยาวชนอายุ 15 ปีติดคุกเพราะมาตรา 112
ขณะที่ชัยวุฒิกล่าวว่าเรื่องยุยงปลุกปั่น คนที่มาป่วนเวทีเราตอนนี้ เราต้องข้ามมันไปให้ได้ เราจะไม่ขัดแย้งกับใคร เพื่อให้บ้านเมืองสงบสุขและเดินหน้าไปข้างหน้า
ตนยืนยันว่าวันนี้คนที่ทำหน้าที่นี้ได้ ที่จะก้าวข้ามความขัดแย้งได้มีเพียงคนเดียวคือ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เพราะฉะนั้นใครที่มากวนเรา อย่าไปโกรธเขา เขาก็มีความเข้าใจผิดๆ ตนไปฟังมาหลายเวทีแล้วบอกว่ากฎหมายอาญา มาตรา 112 เป็นคดีการเมือง ตนจึงอยากถามว่ามันเป็นการเมืองตรงไหน มันเป็นคดีอาญา แล้วที่เรานั่งกันอยู่ตรงนี้มีใครเดือดร้อนจากมาตรา 112 หรือไม่ ก็ไม่มีเลย สมัยก่อนก็ไม่เคยมี เพิ่งจะมามีปัญหาในยุคนี้ เพราะมีคนไปยุยงปลุกปั่น เอาเรื่องนี้มาเป็นเรื่องการเมือง ก็เลยวุ่นวายทั้งที่ความจริงไม่มีปัญหา
“ผมขอบอกเลยมาตรา 112 แก้ไม่ได้ เพราะรัฐธรรมนูญ โดยศาลรัฐธรรมนูญตัดสินแล้ว การแก้หรือยกเลิกมาตรา 112 ทำไม่ได้แน่นอน เพราะถือว่าเป็นการล้มล้างการปกครองในระบบประชาธิปไตย โดยมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ฟังแล้วโปรดเข้าใจไว้ด้วย เพราะพวกเราก็ไม่ยอมให้แก้ พรรคการเมืองบางพรรคด่าทั้งวัน พูดให้คนไทยเกลียดชังประเทศตัวเอง บางพรรคบอกว่าไม่เปลี่ยนรัฐบาลแล้วจะเปลี่ยนประเทศ ประชาชนรู้ไหมว่าเขาจะทำแบบไหน ประชาชนอย่ายอมให้ลูกหลานเราถูกปลุกปั่น เราต้องรักษาสถาบันหลักของชาติให้คงอยู่ต่อไป” ชัยวุฒิกล่าว
