จากตอนที่แล้ว ผมบอกว่าจะเขียนเรื่องการดราฟต์ NFL ถึงพวกตัวเต็งต่างๆ ที่กำลังจะก้าวขึ้นสู่ระดับอาชีพว่ามีใครน่าสนใจกันบ้าง
แต่พอดีได้บทสรุปเกี่ยวกับ จา มอแรนท์ ออกมาก่อน จึงขอยกยอดเรื่องดราฟต์ NFL เอาไว้สัปดาห์หน้าครับ
เมื่อเช้าวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา มอแรนท์กลับมาลงแข่งให้เมมฟิส กริซซลี่ส์ ในฐานะตัวสำรอง ระหว่างเกมเอาชนะฮิวสตั้น ร็อคเก็ตส์ 130-125 เขาลงคอร์ต 24 นาที ทีมเป็นบวก 11 ทีเดียว ชู้ตลง 6 จาก 13 ครั้ง สกอร์ 17
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเวลาไม่ถึงเดือน ถือว่าราวกับรถไฟเหาะตีลังกากับเส้นทางของมอแรนท์ก็ว่าได้
ท้ายสุด NBA สั่งแบน 8 เกม ค่าเสียหายรวมแล้ว 669,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 24.084 ล้านบาท)
หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมยอดเงินค่าจ้างไม่เยอะ ไหนว่ามีข่าวมอแรนท์เพิ่งต่อสัญญาใหม่ 231 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 8,316 ล้านบาท
สัญญาที่ว่าจะมีผลซีซันหน้าเป็นต้นไป
ขณะนี้มอแรนท์ยังแข่งด้วยสัญญารุกกี้ รับทั้งซีซัน 12.119 ล้านดอลลาร์
มองมุมหนึ่งก็เหมือนโชคดีที่ก่อเรื่องขณะสัญญายังไม่แพง มองอีกมุมหนึ่งมันอาจสร้างความเสียหายกับเขาพันกว่าล้านบาททีเดียว
ปัญหาของมอแรนท์และคนรอบข้างเริ่มมีเค้าลางตั้งแต่ปลายเดือนมกราคม 2023
ลูกน้องมอแรนท์กับกลุ่มผู้ติดตามของ อินเดียนา เพเซอร์ส มีเรื่องกันจน NBA เข้าไปสอบสวน
เหตุเกิดเมื่อวันที่ 29 มกราคม เวลาท้องถิ่น เพเซอร์สเดินทางไปเฟ็ดเด็กซ์ ฟอรั่ม ของเมมฟิส
รายงานจาก The Athletic สื่อใหญ่กีฬา บอกว่า หลังเกมวันนั้น พวกลูกน้องมอแรนท์เข้าไปหาเรื่องฝั่งเพเซอร์ส ใกล้กับจุดจอดรถบัสแถวสนามแข่ง แล้วมีชายคนหนึ่งอยู่บนรถ SUV ซึ่งเคลื่อนมาช้าๆ โดยมีมอแรนท์เป็นคนขับ ส่องเลเซอร์สีแดงมาใส่กลุ่มคู่กรณี
สตาฟฟ์เพเซอร์สกล่าวว่าแสงเลเซอร์ดังกล่าวติดอยู่กับปลายกระบอกปืน ซึ่งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของทีมก็สำทับว่าเป็นอาวุธปืนแน่นอน
อย่างไรก็ตาม ไมค์ แบสส์ โฆษก NBA กลับยืนยันว่า สอบสวนแล้วไม่สามารถหาหลักฐานได้ว่าเป็นการเอาปืนออกมาขู่จริง
วันที่ 1 มีนาคม 2023 The Washington Post ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องข้อมูลข่าวเที่ยงตรง รายงานเหตุการณ์ย้อนหลังไปตั้งแต่ซัมเมอร์ที่ผ่านมา
เกิดเหตุการชกต่อยกันระหว่างแข่งบาสเกตบอลที่บ้านมอแรนท์ บานปลายถึงขั้นมอแรนท์ทำร้ายเด็กอายุ 17 ปี และเดินเข้าบ้านเอาปืนยัดใส่กางเกงเพื่อขู่เด็กอีก
มอแรนท์อ้างว่าทำไปเพื่อป้องกันตัว พร้อมให้ปากคำตำรวจ กล่าวหาเด็ก ตะโกนฝากเอาไว้ว่า “กูจะกลับมา แล้วเผาที่นี่ให้ราบคาบ”
ตอนนั้น จิม แทนเนอร์ เอเจนต์ของมอแรนท์ ฉะคู่กรณีว่า “ข่าวลือซุบซิบที่เกิดขึ้นมาจากคนที่อยากเล่นงาน จนทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง และหารายได้เข้ากระเป๋าตัวเอง”
เรื่องนี้ NBA กลับไม่ได้สอบสวนแต่อย่างใด
The Washington Post ยังรายงานเหตุการณ์ไล่ๆ กันว่า แม่ของมอแรนท์ไปทะเลาะกับพนักงานในมอลล์ท้องถิ่น แล้วโทรหาลูกชาย
มอแรนท์โผล่มาพร้อมลูกน้อง 9 คน
พวกนี้ได้ทีก็เข้าไปข่มขู่พนักงานรักษาความปลอดภัยเวลาเลิกงาน บอกให้ระวังตัวเอาไว้
ตำรวจมีบันทึกประจำวัน แต่ไม่มีการจับกุมใคร
วันที่ 4 มีนาคม มอแรนท์ยังหาเรื่องใส่ตัวไม่หยุด
หลังเกมกริซซลี่ส์แพ้นักเก็ตส์ในเดนเวอร์ เขาก็ปรี่เข้าไปในบาร์จ้ำบ๊ะแถวๆ เมือง แล้วจัดแจงไลฟ์ออก Instagram ซึ่งมีจำนวนผู้ติดตามอยู่ 9 ล้านแอ็กเคานต์ เอาปืนขึ้นมาแนบหน้าตัวเองเหมือนคนไม่มีสติ
เรื่องราวทำท่าบานปลายใหญ่โต
มอแรนท์ชิงปิดบัญชีโซเชียลมีเดียชั่วคราว พร้อมออกแถลงว่า อยากปลีกตัวออกไปจากกริซซลี่ส์ เพื่อขอความช่วยเหลือ
กริซซลี่ส์ก็แถลงเช่นกันว่า มอแรนท์ไม่ต้องมาทำงานในช่วงนี้ ให้พักก่อนอย่างน้อย 2 เกม
แน่นอนว่า NBA ไม่อยู่เฉย เข้าสอบสวนทันที
มีกฎเข้มงวดว่าผู้เล่น NBA ห้ามครอบครองอาวุธปืนขณะทำงานที่เกี่ยวข้องกับลีก
ตำรวจเมืองเกลนเดล รัฐโคโลราโด รับลูกเหมือนกัน เข้าสอบสวนบ้างแม้ไม่มีเจ้าทุกข์
รัฐโคโลราโดค่อนข้างเปิดกว้าง แต่ถ้าพกปืนขณะมึนเมาจะมีความผิด
ท้ายที่สุดพวกเขาสรุปว่าไม่มีหลักฐานใดๆ จะดำเนินคดีอาญามอแรนท์
วันที่ 8 มีนาคม กริซซลี่ส์ประกาศเพิ่มเติมว่า มอแรนท์จะยังไม่มารายงานตัวอย่างน้อยอีก 4 เกม หมดโอกาสช่วยทีมเจอศึกใหญ่ทั้งวอร์ริเออร์ส, แมฟเวอริกส์ 2 เกม และฮีต
โดยเฉพาะเกมเจอวอร์ริเออร์สที่ถ่ายทอดสดทั่วอเมริกา
วันที่ 13 มีนาคม ESPN รายงานเรื่องมอแรนท์เดินทางไปเข้าโปรแกรมปรับทัศนคติในฟลอริดา โดยยังไม่มีกำหนดกลับมาแข่ง
สองวันให้หลัง มอแรนท์เข้าพบ อดัม ซิลเวอร์ คอมมิสชันเนอร์ NBA ในนิวยอร์ก เพื่อหารือถึงการกลับมา
ลีกตัดสินใจลงโทษแบนมอแรนท์ 8 เกมโดยไม่ได้รับค่าจ้าง จากข้อหามีพฤติกรรมสร้างความเสื่อมเสียให้ลีก โทษมีผลย้อนหลัง ซึ่งเขาพักแข่งมาแล้ว 6 เกม เท่ากับว่าจะมีสิทธิ์กลับมาช่วยทีมเจอแมฟเวอริกส์วันที่ 21 มีนาคมนี้
“จากข้อมูลที่รวบรวมมาได้ระหว่างสอบสวน ลีกไม่สามารถหาบทสรุปได้ว่าปืนดังกล่าวเป็นของมอแรนท์ เขาเป็นคนพกเข้าไปในไนต์คลับ หรือเอามันขึ้นมาโชว์ด้วยตัวเอง” NBA ชี้แจง
“การสอบสวนยังไม่พบว่ามอแรนท์ครอบครองปืนขณะที่เดินทางกับทีมหรือเอาเข้าไปในสนามของ NBA และเจ้าหน้าที่โคโลราโดก็ไม่สามารถเอาผิดมอแรนท์ในคดีอาญาได้ด้วย”
ซิลเวอร์บอกกับสื่อว่า มอแรนท์เสียอกเสียใจและรู้สึกสำนึกกับการกระทำของตัวเองแล้ว ยืนยันว่าได้เรียนรู้จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
กริซซลี่ส์ประคบประหงมมอแรนท์เต็มที่ เพราะนี่คือสตาร์ที่ดังที่สุดตั้งแต่มีแฟรนไชส์ก็ว่าได้
ไม่ให้เขาแข่งทันที แต่ให้ซ้อมกับเพื่อนร่วมทีมเพื่อปรับสภาพก่อน จากนั้นจึงค่อยลงในฐานะตัวสำรอง
ช่วงที่มอแรนท์ไม่แข่ง กริซซลี่ส์ก็ยังไปได้สวยด้วยสถิติ 6-3
“ผมขอโทษกับเรื่องดังกล่าว” มอแรนท์ให้สัมภาษณ์หลังกลับมาซ้อมเมื่อพ้นแบน “ดังนั้นหน้าที่ของผมจากนี้คือต้องมีความรับผิดชอบยิ่งขึ้น ฉลาดยิ่งขึ้น อย่าทำเรื่องอะไรแบบนั้นอีก”
การ์ด 6 ฟุต 3 ยืนยันว่าไม่เคยมีปัญหาติดเหล้า กะว่าจะเลิกเล่นโซเชียลมีเดียและปล่อยให้การกระทำสะท้อนออกมาเอง
สื่อถามว่า แค่ 2 สัปดาห์จะเคลียร์ปัญหาได้เลยเหรอ?
มอแรนท์ตอบกลับไปว่า กำลังอยู่ในขั้นตอน
“ผมไปปรับทัศนคติเพื่อเรียนรู้วิธีรับมือกับความเครียด รับมือด้วยแนวทางดีๆ แทนที่จะมาทำเหมือนที่ผมเคยทำจนเกิดความผิดพลาดขึ้น”
ท้ายที่สุดมอแรนท์ก็กลับมาเปิด Twitter และ Instagram ใช้งานต่อทันที พร้อมโพสต์โฆษณาพาวเวอร์เหรดลงด้วย
ส่วน Nike สปอนเซอร์ใหญ่ ก็ไม่มีปัญหา ดูหนุนหลังเขาตั้งแต่เกิดเหตุแรกๆ เพราะเตรียมออกรองเท้า JA1 อยู่รอมร่อ คงมองว่าเขาจะเป็นตัวทำเงินทำทองแทน คายรี เออร์วิ่ง
เวลาอยู่บนคอร์ต มอแรนท์เก่งกาจ ติด All-Star 2 สมัย เรียกว่าโดดเด่นกว่า ไซออน วิลเลียมสัน เพื่อนร่วมรุ่นดราฟต์ปี 2019 เสียอีก
ย้อนกลับไปถึงความเสียหายซึ่งจะเกิดกับมอแรนท์
สัญญาที่เซ็นกับกริซซลี่ส์ 5 ปีมีผลซีซันหน้า อย่างที่บอกเอาไว้ การันตีจ่ายให้ 192.2 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 6,919.2 ล้านบาท)
สังเกตว่ามูลค่ายังไม่เท่ากับที่เป็นข่าว 231 ล้านดอลลาร์ เนื่องจากมีเงื่อนไขที่รู้จักกันว่ากฎของโรส (ตามชื่อ เดอร์ริก โรส เอ็มวีพี 2011)
จะมีโบนัสในสัญญาเพิ่มถึง 39.2 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1,411.2 ล้านบาท) ขอแค่เขาติดทีม All-NBA ไม่ว่าจะเป็นชุดตัวจริง ชุดสำรอง หรือชุดสาม ไม่ก็ได้ตำแหน่ง MVP ลีก หรือเป็นตัวป้องกันยอดเยี่ยมแห่งปี
ถ้าจบซีซันนี้มอแรนท์ไม่ได้อะไรสักอย่าง โบนัสดังกล่าวถือเป็นโมฆะ
แค่ไม่กี่สัปดาห์ก่อน เงินพันกว่าล้านบาทที่ว่ายังไงก็เป็นของมอแรนท์ เพราะฟอร์มของเขากำลังสุดยอด เฉลี่ย 27.1 คะแนน 8.2 แอสซิสต์ มากที่สุดในอาชีพกับ 6 รีบาวด์ มากสุดในอาชีพเช่นกัน อีกทั้งกริซซลี่ส์ยังทะยานสู่อันดับ 2 ตะวันตก
กระทั่งเรื่องเกิดขึ้นตามที่เรียบเรียงมาให้ น่าจะส่งผลในใจของนักข่าวผู้จะมีสิทธิ์โหวต ไม่มากก็น้อย
ซีซันก่อนมอแรนท์แข่งแค่ 57 เกม เพราะอาการบาดเจ็บ เฉลี่ย 27.4 แต้ม 5.7 รีบาวด์ 6.7 แอสซิสต์ กริซซลี่ส์ครองอันดับ 2
เขายังได้รับโหวตให้ติดทีมสำรองยอดเยี่ยม NBA โดยคะแนนโหวตออกมาอันดับ 3 ของการ์ดทั้งหมด
เดิมทีคู่แข่งที่จะได้โหวตติดทีม All-NBA ทั้ง 3 ทีมไม่ใช่น้อยๆ
ลูก้า ดอนชิซ, โดโนแวน มิตเชลล์, เช กิลจัส-อเล็กซานเดอร์ และ เดเมี่ยน ลิลเหลิร์ด น่าจะจองแล้ว 4 อันดับ
ที่เหลือยังมี เจมส์ ฮาร์เด้น, ดิแอร่อน ฟ็อกซ์, เจเลน บรันสัน หรือแม้แต่ สเตฟเฟ่น เคอร์รี่ กับ เดวิน บูเกอร์ เพียงแต่ 2 รายหลังเจ็บและพักนาน จนทำให้จำนวนเกมลงแข่งน้อยไป
ซีซันนี้มอแรนท์แข่ง 54 เกม แต่ชื่อเสียงที่เสียไปคงกอบกู้กลับมาในเวลาสั้นๆ ยากพอสมควร
จะว่าไปถ้ามอแรนท์ไม่ได้โบนัสตามสัญญาใหม่จริง กลับเป็นผลดีกับกริซซลี่ส์ที่จะจ่ายน้อยลงเฉพาะซีซันหน้า 7 ล้านดอลลาร์
ดิลล่อน บรู้กส์ อีกตัวเก่ง ก็กำลังจะหมดสัญญา ฝ่ายบริหารทีมตั้งใจต่อสัญญาเขากับ เดสมอนด์ เบน ให้ได้ด้วย
เรามาตามดูอนาคตมอแรนท์กัน ตั้งแต่เรื่องติด All-NBA ได้ไหม ไปจนถึงเขาจะสำนึกต่อการกระทำอย่างที่ปากบอกจริงหรือไม่