×

เจาะแนวคิดสร้าง ‘EV Ecosystem’ ให้แข็งแกร่งอย่างยั่งยืนแบบ MG [ADVERTORIAL]

โดย THE STANDARD TEAM
18.03.2023
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

  • MG ขึ้นแท่นค่ายรถยนต์รายแรกที่มีรุ่นรถไฟฟ้ามากที่สุดในตลาด ในราคาที่เข้าถึงได้ง่าย จึงตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่ม 
  • พิสูจน์การเป็นผู้นำตัวจริงด้วยยอดขายปี 2022 โดยเซ็กเมนต์ที่มีส่วนแบ่งทางการตลาดสูงสุดของ MG เป็นกลุ่ม BEV (รถไฟฟ้า 100%) ซึ่งมีจำหน่ายอยู่ 3 รุ่น ได้แก่ MG ZS EV, MG EP และ NEW MG4 ELECTRIC มียอดขายอยู่ที่ 3,993 คัน
  • นอกจาก MG เอาจริงเรื่องการพัฒนารถไฟฟ้า ยังเป็นค่ายแรกที่มุ่งสร้างระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าให้แข็งแกร่งอย่างยั่งยืน 
  • การตอกย้ำศักยภาพรถไฟฟ้าแบรนด์ MG สามารถขับขี่ได้ทุกที่ทั่วไทย เพราะมี ‘MG SUPER CHARGE’ กว่า 129 จุดที่เปิดใช้งานแล้วทั่วไทย และศูนย์บริการรองรับการซ่อม EV ได้ทั่วประเทศ หนึ่งในฟันเฟืองสำคัญของ EV Ecosystem

ช่วง 4 ปีที่ผ่านมาต้องยอมรับว่า MG เป็นผู้ผลิตรถยนต์รายแรกในไทยที่บุกตลาดรถไฟฟ้า EV จริงจัง สร้างการรับรู้ให้คนไทยได้รู้จักรถไฟฟ้า EV ในหลากหลายมิติ จากที่เคยมีภาพจำว่ารถไฟฟ้าเป็นรถยนต์ในกลุ่มรถพรีเมียม เจาะกลุ่มคนระดับบนเท่านั้น หรือความเข้าใจที่ว่าการใช้รถไฟฟ้าต้องมาพร้อมข้อจำกัดมากมาย และมีตัวเลือกรุ่นที่จำกัด 

 

 

วันนี้ MG พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่ารถไฟฟ้า EV สามารถตอบโจทย์ได้กับทุกไลฟ์สไตล์ ด้วยการนำเสนอตัวเลือกที่หลากหลายจนขึ้นแท่นค่ายรถยนต์ที่มีรุ่นรถไฟฟ้า EV มากที่สุดในตลาดตอนนี้ เพื่อให้คนไทยสัมผัสประสบการณ์การขับขี่รถไฟฟ้า EV ได้ง่ายขึ้น พร้อมพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อทลายข้อจำกัดเดิมๆ อย่างการนำเทคโนโลยี V2L ที่ทำให้รถยนต์ไฟฟ้า MG สามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ไปยังเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นได้ หรือการยกระดับแบตเตอรี่ด้วยเทคโนโลยีใหม่ที่ให้ประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น ไปจนถึงสร้างความเชื่อมั่นด้วยการปลดล็อกความกังวลเรื่องระยะทางการใช้งาน สร้างเครือข่ายและขยายสถานีชาร์จ ทุก 150 กิโลเมตร ต้องมีเครือข่ายสถานีชาร์จอย่างน้อย 1 แห่ง 

 

ทั้งหมดนี้ก็เพื่อรองรับความต้องการใช้งานของคนไทยที่เพิ่มมากขึ้น และเสริมความมั่นใจในการเลือกใช้งานรถยนต์ไฟฟ้า เพราะหากดูทิศทางการเติบโตของ EV ในปี 2022 ยอดจำหน่ายรถ EV ทั่วโลกคิดเป็น 10% ของยอดขายรถยนต์ทั้งหมด หรือกว่า 7.8 ล้านคัน สอดคล้องกับตัวเลขการเติบโตในไทยที่มียอดจดทะเบียนรถ EV เพิ่มขึ้นมากถึง 402.8% จากปี 2021 ในขณะที่ตัวเลขเดือนมกราคม 2023 พบว่ายอดจดทะเบียนรถ EV ประเภทไฟฟ้า (BEV) มีจำนวน 4,707 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคมปีที่แล้วถึง 649.52%  

 

การที่ภาครัฐออกมาตรการสนับสนุนการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศ ทั้งการให้เงินอุดหนุนเพิ่มเติม การลดภาษีสรรพสามิตและภาษีอากรขาเข้าสำหรับรถยนต์ BEV รวมถึงมาตรการกระตุ้นยอดขายจากฝั่งผู้ผลิตในช่วงที่เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว ทำให้ผู้ผลิตสามารถทำราคารถให้ต่ำกว่า 2 ล้านบาทได้ เปิดโอกาสให้คนที่สนใจรถไฟฟ้าสามารถจับจองเป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้น  

 

 

MG พิสูจน์การเป็นผู้นำยานยนต์ไฟฟ้าของเมืองไทยตัวจริงตลอด 4 ปี ภายใต้แนวคิดที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการใช้รถ EV ด้วยราคาที่เหมาะสมและคุ้มค่าที่สุดในตลาด แม้จะเกิดความท้าทายของอุตสาหกรรมยานยนต์ในหลายปัจจัย แต่ปี 2022 MG กลับเปิดตัวรถ 4 รุ่น 4 รูปแบบพลังงาน โดยเซ็กเมนต์ที่มีส่วนแบ่งทางการตลาดสูงสุดของ MG เป็นกลุ่ม BEV (รถไฟฟ้า 100%) ซึ่งมีจำหน่ายอยู่ 3 รุ่น ได้แก่ MG ZS EV, MG EP และ NEW MG4 ELECTRIC มียอดขายอยู่ที่ 3,993 คัน ยืนหยัดความเป็นผู้นำรถไฟฟ้าตัวจริง ซึ่งถ้ารวมยอดจำหน่ายรถไฟฟ้าของ MG ตั้งแต่เข้ามาในประเทศจนถึง ณ ปัจจุบัน มียอดสะสมเกือบ 9,000 คันแล้ว

 

 

 

MG ZS EV รถไฟฟ้า EV สไตล์ SUV รุ่นแรกของ MG ที่เข้ามาปลุกกระแสรถยนต์ไฟฟ้าในเมืองไทยเมื่อปี 2562 ด้วยแนวคิด Easy รถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่ทำให้ชีวิตง่ายขึ้นอย่างแท้จริง และเปิดตัวโฉมใหม่เมื่อปี 2022 ด้วยดีไซน์ที่ใหม่ขึ้น กับแนวคิด Truly Easy พร้อมมีฟังก์ชันที่โดดเด่นมากขึ้นและเข้าถึงได้ง่าย ล่าสุดเพิ่งคว้ารางวัล ‘THE MOST VALUABLE EV’ จากเวที CAR OF THE YEAR 2023  

 

 

MG4 แฮทช์แบ็กพลังงานไฟฟ้า 100% ที่มาพร้อมคอมเซปต์ ICON นิยามของการเป็น ‘ต้นแบบ’ และมาตรฐานใหม่ของรถ EV ที่ขับสนุก ก็คว้ารางวัล ‘BEST 5 DOOR EV SPORT HATCHBACK’ จากเวที CAR OF THE YEAR 2023 ด้วยเช่นกัน โดดเด่นด้วยระบบขับเคลื่อนล้อหลัง ตอกย้ำการเป็น EV สายพันธุ์แท้ด้วยนวัตกรรม NEBULA PURE ELECTRIC PLATFORM มั่นใจด้วยระบบความปลอดภัย SEMI-AUTONOMOUS DRIVING SYSTEM มั่นใจทุกการขับขี่ด้วยระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ ADVANCED SYNCHRONIZED PROTECTION SYSTEM ถึง 20 ระบบ ซึ่งครอบคลุมทั้งระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ Advanced Driver-Assistance Systems (ADAS) ระบบช่วยเตือนอุบัติเหตุจากมุมอับสายตา และระบบช่วยควบคุมการขับขี่ ให้อุ่นใจในทุกการขับขี่

 

 

MG EP รถสไตล์สเตชันแวกอนที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% รุ่นแรกในไทย ออกแบบภายใต้แนวคิด BRIT DYNAMIC ที่ให้ทั้งสมรรถนะ การควบคุม การออกแบบ และความปลอดภัย ตอบโจทย์ทุกรูปแบบการใช้งานที่หลากหลาย ขับเคลื่อนได้ไกล ประหยัดได้มากกว่า

 

 

และล่าสุด MG จะเปิดตัว NEW MG ES สเตชันแวกอนไฟฟ้ารุ่นใหม่ ภายใต้แนวคิด ‘COMFORTABLE เป็นทุกอย่าง เพื่อทุกโมเมนต์’ เติมเต็มไลฟ์สไตล์ในทุกช่วงเวลาที่สำคัญ โดดเด่นด้วยพื้นที่ใช้สอยของห้องโดยสารที่มีขนาดใหญ่ใช้ได้จริง ด้วยดีไซน์ภายนอกและภายในที่พรีเมียมและมีระดับ พร้อมแพลตฟอร์มระบบส่งกำลังที่พัฒนาให้ดีขึ้น และอุ่นใจกับระบบความปลอดภัยรอบคัน ด้วยระบบความปลอดภัยมาตรฐาน ADVANCED SYNCHRONIZED PROTECTION SYSTEM พร้อมระบบ Advanced Driver-Assistance Systems (ADAS)       

 

ตลอด 4 ปีของการพัฒนาผลิตภัณฑ์ในฐานะผู้นำยานยนต์ไฟฟ้าของเมืองไทย MG จะเริ่มต้นด้วยการสร้างแพลตฟอร์มรถไฟฟ้าขึ้นมาก่อน จากนั้นจึงออกแบบรูปลักษณ์ของรถเพื่อครอบตัวแบตเตอรี่ แนวคิดที่ว่านี้ทำให้รถไฟฟ้า EV ของ MG สามารถดีไซน์โครงสร้างรถได้อย่างไร้ขีดจำกัด  

 

ตอกย้ำการเป็นผู้นำยานยนต์ไฟฟ้าด้วยผลสำรวจจากลูกค้าและสื่อต่างๆ ด้วย Thailand’s Most Admired Brand ในหมวดยานยนต์กลุ่มรถยนต์ไฟฟ้า (EV) และรางวัลพิเศษ Greenovation Brand Award โดยนิตยสาร BrandAge ปี 2022 และ 2023 รวมถึงรางวัล No.1 Brand Thailand 2021-2022 หมวดรถยนต์ไฟฟ้า (EV Car) โดยนิตยสาร Marketeer

 

 

นอกจาก MG จะเป็นค่ายรถยนต์เจ้าแรกๆ ที่รุกตลาดรถไฟฟ้า EV จริงจัง ยังเป็นเจ้าแรกในไทยที่มุ่งสร้างระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าให้แข็งแกร่งอย่างยั่งยืน ปูพื้นฐานและขยายขอบเขตของโครงสร้างพื้นฐานรถไฟฟ้าให้ครอบคลุมทั่วประเทศ รวมถึงบริการก่อนและหลังการขาย เพื่อให้คนไทยได้ประสบการณ์การใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าอย่างเต็มประสิทธิภาพ และรองรับสังคมรถไฟฟ้าที่เติบโตขึ้น ที่สำคัญยังเป็นการตอกย้ำศักยภาพรถไฟฟ้าแบรนด์ MG สามารถขับขี่ได้ทุกที่ทั่วไทย เพราะมี ‘MG SUPER CHARGE’ กว่า 129 จุดทั่วไทย และศูนย์บริการรองรับการซ่อม EV ได้ทั่วประเทศ  

 



ปฏิเสธไม่ได้ว่าระยะทางการขับขี่ที่ไกลขึ้นเป็นปัจจัยที่ช่วยให้คนตัดสินใจหันมาใช้รถไฟฟ้า EV มากขึ้น ปัจจุบัน MG มี ‘MG SUPER CHARGE’ หรือสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าตามจุดต่างๆ ทั่วไทย 129 จุด โดยปี 2023 MG ตั้งเป้าเพิ่มจำนวนสถานีชาร์จรถไฟฟ้า ‘MG SUPER CHARGE’ กระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น และวางแผนจะให้โชว์รูมทั่วไทยมี MG Super Charge เพื่อเสริมความมั่นใจว่าในทุกการขับขี่ไม่เกิน 150 กิโลเมตรจะเข้าถึงจุด QUICK CHARGE ของ MG ได้ ด้วยการจับมือกับพันธมิตรอย่างบางจาก รวมถึงมองหาพันธมิตรใหม่ๆ เพื่อร่วมกันพัฒนา Ecosystem การใช้รถ EV ในไทยให้สมบูรณ์แบบที่สุด 

 

สร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้ามากยิ่งขึ้น โดยให้ความสำคัญในเรื่องการบริการ สร้างมาตรฐานการบำรุงรักษารถไฟฟ้า EV ให้ลูกค้ามั่นใจเรื่องความปลอดภัยในทุกศูนย์บริการ ด้วยราคาการซ่อมบำรุงที่เหมาะสม ไม่เกิน 8,000 บาท เฉลี่ย 100,000 กิโลเมตร รวมถึงอะไหล่ต่างๆ ก็มีราคาที่เข้าถึงได้ง่าย

 

ความแข็งแกร่งของ MG EV Ecosystem ยังรวมไปถึงการขยายเครือข่ายผู้จำหน่ายและศูนย์บริการให้ครอบคลุมครบ 77 จังหวัด และเพิ่มจำนวนศูนย์บริการซ่อมสีและตัวถังจาก 67 แห่งเป็น 80 แห่งภายในปี 2023 เตรียมแผนเพิ่มการเข้าถึงอู่พันธมิตรและบริษัทประกันภัยเกี่ยวกับขั้นตอน รวมถึงการบริหารระยะเวลาในการอนุมัติซ่อม ไปจนถึงการจัดส่งอะไหล่ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลภายในวันถัดไป และในพื้นที่ต่างจังหวัดภายใน 2 วันทำการ 

 

การวางฐาน EV Ecosystem ให้แข็งแกร่งอย่างยั่งยืนแบบ MG และการไม่หยุดพัฒนาผลิตภัณฑ์รถไฟฟ้า EV หลากรุ่นเพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลาย โดยนำออปชันและฟีเจอร์ต่างๆ ที่ใช้ในตลาดโลกมาพัฒนาเพื่อยกระดับยานยนต์ไทย เป็นบทพิสูจน์ว่า MG ยังคงเป็นแบรนด์ที่กล้าคิดและลงมือในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้สามารถเป็นไปได้ เป็นไปตามเป้าหมายสำคัญในการดำเนินธุรกิจที่ต้องการสร้างการเปลี่ยนแปลง และผลักดันอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยสู่ยุคใหม่ที่ทัดเทียมอุตสาหกรรมยานยนต์โลก

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X